Page 125 - 049
P. 125
111
ี
ู
ี่
้
ี
้
2. การสรางความรจักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ทมคนกลางทเรยนรถงการสานเสวนาท ี่
ึ
ู
้
ื
ึ
ี่
ไม่ใช่การเจรจาแบบเอาแพ้เอาชนะกัน หรอการไปยอมๆ กัน รวมถงทักษะทเกี่ยวข้องแล้ว ก็ท า
ุ
ื
ี่
ั
ั
ุ
หน้าทประสานแต่ละกล่มเพื่อขอรบฟงจดสนใจ (หรอความต้องการ ความหวังความกลัว ความกลัว
ี
ึ
ั
ทอยู่ลก ๆ ลงไปกว่าจดยืน) กระบวนการรบฟงมความส าคัญมาก ทมคนกลางไม่มหน้าทไปแนะน า
ี
ั
ุ
ี
ี่
ี่
ุ
ว่าท าไมไม่ท าอย่างนั้น ท าไมไม่ท าอย่างน้ มหน้าทจดทกค าพูด ทกข้อทกประเดน เพียงท าความ
ี
ุ
ุ
็
ี
ี่
กระจ่างในแต่ละประเด็นให้ชัดเจน และอาจจะถามไปด้วยว่าถ้าจะเจรจากันโดยกระบวนการทผู้ม ี
ี่
ี
ี
ิ
ี
ื
ู
ี
ิ
็
อ านาจในการตัดสนใจคอค่เจรจาทั้งหมด เจรจากันอย่างมกตกาไม่มการช้หน้าว่ากัน มความเหนว่า
อย่างไร
ื่
ื่
็
ั
3. การสานเสวนา (Dialogue) เปนกระบวนการมาฟงอย่างตั้งใจ โดยเชอว่าคนอนก็ม ี
บางส่วนของค าตอบ พรอมทจะร่วมมอกัน ไม่ได้มาเอาแพ้เอาชนะกัน มองอดตเปนบทเรยน แต่
ื
ี
ี
้
ี่
็
ี
พูดคยกันในส่งทอยากให้เกิดส่อนาคตเพื่อเปาหมายเดยวกัน และมกตกาซงเกิดข้นจากผู้ร่วม
ี่
่
ิ
ุ
ึ
ึ
ิ
ู
้
ี
็
สานเสวนา ก าหนดและเหนพ้องต้องกัน คอ
ื
ี
้
3.1 มเปาหมาย เพื่อท าความเข้าใจกัน ไม่มาเอาแพ้เอาชนะกัน
ิ
ี่
็
ี
3.2 มความเท่าเทยมกัน ไม่มใครใหญ่กว่ากัน ผู้ท าหน้าทเปนผู้ด าเนนการให้เกิด
ี
ี
กระบวนการสานเสวนาก็ไม่มอ านาจมากไปกว่ากตกาททกๆ ฝายร่วมกันก าหนด
ี่
ี
่
ุ
ิ
3.3 เปดเผย ฟง อย่าด่วนตัดสนใจ ให้เปดเผยประเด็นเจรจาทั้งหมด ฟงทั้งเรองท ี่
ั
ั
ิ
ิ
ื่
ิ
เหนด้วยและไม่เหนด้วย
็
็
3.4 แสวงหาสมมตฐานต่างๆ อย่างหลากหลายทเกี่ยวข้องกับปญหา และทางออก
ั
ี่
ิ
ั
โดยฟงกันอย่างกว้างขวาง
3.5 ฟงด้วยความรสกร่วม ไม่ได้หมายความว่าต้องมาเหนด้วย หรอไม่เหนด้วย คอ
็
็
ั
ู
ื
้
ื
ึ
็
ู
้
ั
ั
อาจจะฟงอย่างรบร (Acknowledge) โดยไม่ต้องเหนด้วย (Affirmative) ก็ได้
3.6 มองหาจดร่วม โดยดจากจดสนใจร่วมทตรงกัน และเร่มหาทางออกจากจดร่วม
ุ
ี่
ุ
ู
ุ
ิ
็
ทเหนเหมอนกัน
ี่
ื
ุ
ิ
ี่
3.7 แสดงความเหนทแตกต่างในความคด ทไม่ใช่เรองของ “บคคล” หรอ
็
ี่
ื
ื่
ี่
็
ื่
“แรงจูงใจ” ให้อยู่ในเรองของความเหนทแตกต่างกัน