Page 121 - 049
P. 121
107
ึ
ั
่
ี่
ิ
ิ
ี
3. เพื่อจะเกิดการเปลยนแปลง ถ้าเราจรงใจซงกันและกัน เรามาฟงว่าทคดอย่างน้
ี่
ี
ื่
ี
ี
ึ
ั
ี
ท าอย่างน้เพราะเขามเงอนไขใดบบบังคับให้เขาท าแบบน้ แล้วถ้าเราฟง เราจะเข้าใจมากข้น ลดอคต ิ
ี
ี่
ิ
ี่
ี
ี่
ทมอยู่แล้ว เราตัดสนเขาแบบน้จะท าให้เกิดความเปลยนแปลงในใจเราได้ โดยอาจจะเปลยนแปลง
็
จากเล็กๆ น้อยๆไปจนถงเปลยนแปลงมาก จนเหนใจเขาหรอพัฒนาจนเปนพวกเดยวกับเขา
็
ี่
ึ
ี
ื
ั
4. เพื่อการร่วมมอ โดยท างานเพื่อพัฒนา ร่วมแก้ปญหา
ื
หัวใจส าคัญของกระบวนการสานเสวนาตามทฤษฎของ Leonard คอ การเปดโอกาส
ื
ิ
ี
ี
็
ึ
ึ
ั
ั
ให้มการฟงอย่างลกซ้ง (Deep Listening) เปนการฟงเพื่อเข้าใจ ความหมาย การสานเสวนาตาม
ู
้
ทฤษฎของ Bohm เปนความกระหายอยากรเรองอย่างใจจดใจจ่อ (Suspension) ซงเกี่ยวข้องกับ
ื่
่
ึ
ี
็
็
"ความตั้งใจฟง" (Attention and Listening) ในการส ารวจหาความหมายของผู้พูด เปนความคดทว่า
ั
ี่
ิ
ถ้าผู้พูด มความตั้งใจทกล่าวถงส่งใด ส่งหนงด้วยอารมณความรสก พรอมๆ กับเสนอความคดอันใด
ิ
ี
ิ
ึ
์
่
ู
ึ
้
ิ
ึ
ี่
้
่
ิ
อันหนง และผู้พูดยังคงรกษาความตั้งใจ ในการกล่าวถงส่งนั้นต่อไป กระบวนการของความคดจะ
ิ
ึ
ึ
ั
ด าเนนไปได้ลกซ้งยิ่งข้น นั่นคอ ทั้งผู้พูดจะสามารถเข้าใจความหมายของส่งทตนพูดและผู้ฟงอาจ
ิ
ื
ิ
ี่
ึ
ึ
ึ
ั
ิ
ึ
ึ
เข้าใจส่งทตนได้ยิน อย่างลกซ้งมากข้น
ี่
ึ
็
ี่
ึ
ื
่
็
ี่
จากทกล่าวมาจะเหนว่า สานเสวนา เปนเครองมออย่างหนงทน ามาใช้ในการแปลง
ื่
ี่
็
ี
ี่
เปลยนความขัดแย้ง ลดความไม่เข้าใจ ส่งเสรมสรางความปรารถนาดต่อกัน อันเปนก้าวแรกทจะ
ิ
้
ี
ื
ู
น าไปส่ความร่วมมอ ร่วมใจ ร่วมแก้ปญหาของสังคม โดยทั่วไปการสานเสวนามหลักการส าคัญ 3
ั
ื
ประการ คอ
ื
ั
ิ
ั
ั
1. ฟงอย่างไร คอ ฟงด้วยความเมตตา ฟงโดยไม่ตัดสนไว้ก่อน ฟงแบบเอาใจเขามาใส่
ั
ใจเรา
ั
ึ
2. ฟงอะไร คอ ฟงตัวเอง ฟงผู้อน ฟงความเงยบ (คดอย่างใคร่ครวญแล้วจงพูด) ฟงผล
ื่
ั
ิ
ั
ั
ื
ี
ั
ื่
ั
ของการฟงตัวเองและผู้อน
ิ
ี
3. ฟงเพื่อหาความหมายด้วยกัน เพื่อการมส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการยึดเหนยวแท้จรง
ี่
ั