Page 124 - 049
P. 124
110
ิ
ี่
ี่
ั
ึ
ึ
1. ความไม่เข้าใจธรรมชาตทแท้จรงของสานเสวนาว่ามหัวใจอยู่ทการฟงอย่างลกซ้ง
ี
ิ
ี
2. มความเข้าใจว่าเปนการเจรจาต่อรอง
็
ู
่
ี่
่
ึ
่
3. มความกังวลว่าฝายใดฝายหนงจะต้องถกเปลยนจดยืน
ุ
ี
ั
็
4. มความเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าทของรฐหรอนักวิชาการเท่านั้นทเปนผู้จัดสานเสวนา
ี่
ี
ี่
ื
ุ
ิ
ี
่
ี่
แท้ทจรงแล้วทกฝายสามารถมส่วนร่วมได้
ิ
ึ
5. ความเข้าใจผิดว่าการสานเสวนาเปนการพูดและคยกันในห้องแล้วมได้เกิดอะไรข้น
็
ุ
ภายหลังจากการพูดนั้น
ื่
6. ข้อจ ากัดเรองเวลาและการรอคอยผลส าเรจ ทยังไม่สามารถเกิดข้นได้จรง ความเสอม
ื่
ี่
ึ
ิ
็
ศรทธา ลังเลสงสัยจงอาจเกิดข้นได้
ึ
ั
ึ
นอกจากน้ วันชัย วัฒนศัพท์ (2547)ได้เสนอแนวคดขั้นตอนของการสานเสวนาเพื่อ
ิ
ี
้
ู
ไปส่เปาหมาย ดังน้ ี
ี่
็
1. หาคนกลาง ขั้นตอนแรกของคนทขัดแย้งกัน ทแยกขั้วแยกกล่มกัน แล้วเปนคนละ
ี่
ุ
ี่
ี
็
ุ
กล่มคนละพวก ต่างคนต่างกล่มก็จะมจดยืน (Position) วิธคดและสัญลักษณทแตกต่างกัน และเปน
์
ุ
ุ
ิ
ี
ุ
ี่
การยากมากทจะเชญชวนให้เดนเข้ามาเจรจากัน เพราะนอกจากจะมจดยืนต่างกันคนละสดทางแล้ว
ี
ุ
ิ
ิ
ึ
ื
็
ี่
็
ี
ื่
ื่
ี
ี
ุ
ยังมเรองอนๆ อกทมาเปนอปสรรคของการสานเสวนาหรอการเจรจาใดๆ จงจ าเปนต้องมคนกลางท ี่
ทั้งเข้าใจในกระบวนการและเปนทยอมรบของทั้งสองฝายหรอหลายฝาย คนกลางในช่วงแรกอาจจะ
ี่
่
ื
ั
่
็
ื
เปนกล่มบคคลทสามารถเข้าไปพบปะและไปรบฟงจดสนใจหรอความต้องการ ความกลัว
็
ุ
ั
ั
ุ
ุ
ี่
ุ
ี่
ความห่วงกังวลของแต่ละฝายทไม่ใช่จดยืน
่
กล่มคนกลางน้อาจจะเปนผู้ทพอจะยอมรบได้ในผู้น า
ี่
็
ุ
ี
ั
ุ
แต่ละฝาย ก่อนจะน าไปส่คนกลาง หัวหน้าทมทเปนทยอมรบของทกฝาย ทมคนกลางต้องเรยนรใน
ู
ู
ี
้
่
ี่
ี
็
ี
ี่
ั
่
กระบวนและกตกาการสอสารอย่างละเอยดของทั้งการสานเสวนา การเจรจาและทักษะสมานฉันท์
ิ
ื่
ี
อย่างแท้จรง
ิ

