Page 122 - 049
P. 122
108
ี
ั
ี่
ื่
็
ี่
เมอมการฟงอย่างตั้งใจถ้วนถแล้ว ความเข้าใจผิด อาจละลายไป เปลยนแปรเปน
ี
์
ื
ี
ความเหนใจ เกิดการเปลยนท่าทเปนการร่วมมอกันโดยไม่มการบังคับ สถานการณความร่วมมอ
ื
็
ี่
็
็
ึ
ิ
ื
ช่วยเหลอกันหลังจากโศกนาฎกรรมคลนสนาม อาจเปรยบเทยบเปนตัวอย่างของการสานเสวนา
ี
ี
ื่
ั
ึ
ี
ึ
ผ่านการฟงอย่างลกซ้ง จนเข้าใจความหมายของการสญเสย พลัด พรากโดยมได้ตั้งตัว และ
ู
ิ
ื
็
็
็
แปรเปลยนเปนการระดมความเหนอกเหนใจ การช่วยเหลอ การร่วมมอ ร่วมใจโดยธรรมชาตและ
ิ
ี่
ื
ุ
ิ
ุ
ปราศจากการบังคับ (ปารชาด สวรรณบบผา, ม.ป.ป.)
ระดับของการท าสานเสวนา
ิ
ุ
1. ระดับทฤษฎ คอระดับค าสอน เช่น จดหมายสงสดของอสลาม คอการได้อยู่กับ
ื
ี
ื
ู
ุ
พระเจ้า ศาสนาพุทธเชอในนพพาน
ื่
ิ
์
ิ
ุ
ุ
2. ระดับประสบการณ เช่น ชาวบ้านไปท าบญปล่อยปลา ชาวมสลมไปละหมาด
เสรจแล้วเขารสกอย่างไร
้
ึ
ู
็
็
ี
ั
ี
ุ
ี
3. ระดับชวิต จะมปญหาเปนตัวตั้ง เช่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มคนตายทกวัน
ี
เราก าลังอยู่ในวิกฤตเดยวกัน อยู่ภายใต้ปญหาเดยวกัน เราจะใช้การสานเสวนา เพื่อหาทางลด
ั
ิ
ี
ั
็
ความรนแรงโดยเอาปญหาเปนตัวตั้ง
ุ
กฎของการสานเสวนา
ิ
ุ
1.ไม่มวาระซ่อนเรน ความงดงามของสานเสวนามาจาก “เจตนาบรสทธ์” คอ พูด
ิ
้
ื
ี
้
ิ
ความจรงอย่างตรงไปตรงมา ไม่สวมหน้ากากเข้าหากัน ไม่มอะไรต้องซ่อนเรน
ี
ื่
2. ปฏสัมพันธกันอย่างมนษย์ ให้ความเคารพ ให้เกียรตผู้อน เพราะเขาไม่ใช่วัตถส่งของ
ิ
ิ
ุ
ิ
์
ุ
ิ
ิ
ี่
ิ
ี
ื่
ิ
ี่
ทไรหัวใจ ปฏบัตต่อผู้อนเช่นเดยวกับทอยากให้ผู้อนปฏบัตต่อเรา
้
ื่
ี
ี
ื
3. เท่าเทยม ต่างฝายต่างเรยนร “ให้ และ รบ” เท่าๆ กัน ไม่มใครด้อยกว่า หรอเหนอกว่า
ื
่
ั
ู
ี
้
็
ุ
ี
ี
ี
ิ
ี
ิ
ใคร ไม่มการครอบง าทางความคด เขากับเราเท่าเทยมกัน เขากับเราม ศักด์ศรของความเปนมนษย์
ี
เท่าเทยมกัน
็
ุ
4. จดยืนชัดเจน กล้าบอกความคด ความเชอของตนเอง กล้าเปดห เปดใจ ฟงความเหน
ั
ื่
ิ
ิ
ู
ิ
ื่
ั
ื่
็
็
ั
ทแตกต่าง กล้ารบฟง ว่าผู้อนเข้าใจ และเหนว่าเราเปนอย่างไร สอความหมายของเราให้ชัดเจน
ี่

