Page 240 - 047
P. 240
219
์
ิ
ี
จ าแนกตาม ประสบการณการท างาน และทตั้งโรงเรยนพบว่า มสภาพการบรหารงานวิชาการ
ี่
ี
ี่
ี
โดยรวมแตกต่างอย่างมนัยส าคัญทางสถตทระดับ .05
ิ
ิ
ี
ั
ู
ิ
ิ
4. ปญหาการบรหารงานวิชาการ ของครผู้สอนโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ี
ี่
สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ทปฏบัตอยู่โรงเรยนทมขนาดแตกต่างกันโดย
ิ
ี
ิ
ึ
ั
ี่
ี
ี
ี
็
็
ิ
ภาพรวมมความคดเหนไม่แตกต่างกัน ผลวิจัยทเปนเช่นน้อาจเปนเพราะว่า การบรหารงานวิชาการ
ิ
็
ี่
ึ
ิ
ึ
เปนงานหลักของการบรหารสถานศกษา ไม่ว่าสถานศกษาจะเปนประเภทใด ขนาดใดก็ตาม
็
็
ึ
มาตรฐานและคณภาพของสถานศกษาจะพิจารณาได้จากผลงานด้านวิชาการเกี่ยวข้องกับหลักสตร
ู
ุ
ึ
ี
ึ
ึ
่
็
การจัดโปรแกรมการศกษา และการจัดการเรยนการสอน ซงเปนหัวใจของสถานศกษา สอดคล้อง
ิ
ี่
กับจนดา ทรพย์เมฆ (2549) ทได้ศกษาเรอง ความพึงพอใจของครในการบรหารงานวิชาการของ
ื่
ึ
ิ
ู
ั
ุ
ี
ึ
ผู้บรหารสถานศกษา สังกัดกรงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า เปรยบเทยบความพึงพอใจของคร ู
ิ
ี
ิ
ึ
ุ
ิ
ในการบรหารงานวิชาการของผู้บรหาร สถานศกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดกรงเทพมหานคร จ าแนกตาม
์
ประสบการณในการท างาน และขนาดโรงเรยนโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
ี
้
ิ
3. เพื่อประมวลขอเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาการบรหารงานวิชาการ
ึ
ั
ั
ั
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สงกัดสานกงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ี
ี
ิ
1. แนวทางการพัฒนาดานหลักสูตร พบว่า ควรจัดท าหลักสตรท้องถ่นให้ตรงตาม
ู
้
ู
ิ
สภาพของแต่ละท้องถ่นให้ความส าคัญกับชมชน แบ่งหลักสตรออกตามความสามารถ ความช านาญ
ุ
ู
ี่
ี
ี
ี
ี่
ของเด็กนักเรยน มหลักสตรทแน่นอน มการพัฒนาแต่ไม่ใช้การเปลยนแปลงตลอดเวลาหลักสตร
ู
ึ
ี
ึ
แกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน ต้องให้ความสะดวกแก่โรงเรยนในการก าหนดหลักสตรสถานศกษา
ู
ู
ุ
จัดอบรมหลักสตรบูรณาการและสนับสนนให้ใช้ทกโรงเรยน ให้ครผู้สอนทั้งในวิชาสามัญและ
ี
ู
ุ
ี่
ศาสนาร่วมกันจัดท าหลักสตรร่วมกันโดยเฉพาะในวิชาทบูรณาการ ให้ใช้หลักสตรทอ่าน ออกเขยน
ี
ู
ี่
ู
ี
ึ
ึ
ู
ได้ หลักสตรควรมความยืดหยุ่นความยากง่ายให้เหมาะสม ค านงถงความต่างระหว่างนักเรยนและ
ี
ี
้
ผลสัมฤทธ์ ิทนักเรยนท าได้จรง ต้องครอบคลมกับกล่มสาระการเรยนรและสอดคล้องกับหลักสตร
ู
ู
ุ
ี่
ี
ิ
ุ
ู
็
ส ารวจความต้องการของคนในชมชน เพื่อน ามาพัฒนาหลักสตรการสอนต่อไป ผลวิจัยทเปนเช่นน้ ี
ี่
ุ
ี่
ู
อาจเปนเพราะว่า หลักสตรการจัดการศกษาทใช้ในบรบทของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ิ
็
ึ
ี
ิ
ี่
็
ิ
ี
ี
ี
ต่างกัน เพราะ ส่วนใหญ่โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามเปนโรงเรยนทแปรสภาพจากโรงเรยน
ิ
ู
ึ
ในมาตรา 15 (2) จงท าให้ระบบการบรหารการจัดการด้านหลักสตรมความต่างกัน ยังใช้ระบบเก่าใน
ี
ิ
ู
ึ
การจัดการศกษา ผู้บรหารยังขาดทักษะ ความสามารถในการบรหารการจัดการด้านหลักสตร ขาด
ิ
ึ
่
ู
ู
ึ
ความตระหนักถงความส าคัญของการพัฒนาหลักสตรและการน าหลักสตรไปใช้ ซงสอดคล้องกับมู
หามัดรยาน บากา (2554) ทได้ท าวิจัยเรอง การบูรณาการสาระและมาตรฐานการเรยนรช่วงชั้นท 3
ี่
ื่
ี
้
ู
ี
ู
ี่
ิ
ี
ส าหรบโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลการวิจัยในด้านหลักสตร
ั
ู