Page 236 - 047
P. 236

215






                                            ี
                                  ึ
                            ิ
                                                    ั
                                                                       ู
                                                        ิ
                                                      ี่
                      สอนอสลามศกษาในโรงเรยนของรฐทเปดสอนสองหลักสตร จังหวัดยะลา ผลการวิจัยพบว่า สภาพ
                                 ี
                                                                                ิ
                                                                                      ึ
                                                                  ็
                                                    ึ
                                                                          ู
                      การจัดการเรยนการสอนอสลามศกษาตามความเหนของครสอนอสลามศกษาในภาพรวมอยู่ใน
                                             ิ
                      ระดับมาก  ผลวิจัยทเปนเช่นน้อาจเปนเพราะว่า ปญหาการบรหารงานวิชาการ โรงเรยนเอกชนสอน
                                                                          ิ
                                       ี่
                                                    ็
                                         ็
                                               ี
                                                                ั
                                                                                             ี
                                                                                         ิ
                                                      ึ
                      ศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ยังขาดการบรหารและการจัดการ
                                                                       ั
                                                                            ี
                              ิ
                                                               ึ
                                 ี
                                      ิ
                                ี่
                      การศกษาทด ผู้บรหารส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถงความส าคัญของงานวิชาการ โดยเฉพาะโรงเรยน
                                                                                                       ี
                           ึ
                                                                            ิ
                                         ิ
                      เอกชนสอนศาสนาอสลามทแปรสภาพเปนควบค่สามัญผู้บรหารยึดกับการบรหารและการจัด
                                                ี่
                                                                                            ิ
                                                           ็
                                                                  ู
                      การศกษาระบบเก่า ดั้งเดมอยู่ ยังขาดความช านาญในการบรหารด้านต่างๆ ยังไม่ค้นเคยกับเทคนค
                                                                                            ุ
                                           ิ
                           ึ
                                                                         ิ
                                                                                                        ิ
                            ิ
                                               ิ
                                                                       ิ
                      การบรหารในรปแบบการบรหารงานใหม่ๆในยุคการปฏรปการศกษา ไม่ว่าจะเปนด้านหลักสตร
                                                                                            ็
                                                                                                       ู
                                                                               ึ
                                   ู
                                                                        ู
                                                                         ี
                                                       ื่
                                                  ้
                                             ี
                                                 ู
                      ด้านกระบวนการจัดการเรยนร ด้านสอ เทคโนโลยี การเรยนการสอน และด้านการวัดผลและ
                                                                             ึ
                                                                                          ี่
                                  ี่
                                                           ิ
                            ิ
                      ประเมนผลททันสมัยเข้ามาช่วยในการบรหารและจัดการการศกษา ทั้งหมดทกล่าวมาน่าจะเปน
                                                                                                        ็
                                    ั
                                              ิ
                                                                                      ิ
                      สาเหตทท าให้ปญหาการบรหารงานวิชาการ โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงาน
                                                                  ี
                             ี่
                            ุ
                                                 ี
                           ึ
                                                                               ื่
                                            ั
                      การศกษาเอกชนจังหวัดปตตานในภาพรวมอยู่ในระดับมากด้วย เมอพิจารณาเปนรายด้าน สามารถ
                                                                                         ็
                         ิ
                      อภปรายผลได้ดังน้  ี
                                                           ั
                                                                     ิ
                                                                                            ู
                                     1. ด้านหลักสตร พบว่า  ปญหาการบรหารงานวิชาการด้านหลักสตร  โดยภาพรวม
                                                ู
                                        ื่
                                                  ็
                      อยู่ในระดับ มาก  เมอพิจารณาเปนรายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ มาก และอยู่ในระดับ ปาน
                                                                                                    ู
                      กลาง โดยข้อทมค่าเฉลยสงสดคอ โรงเรยนมการปรบเปลยนองค์ประกอบของหลักสตรให้
                                                                           ี่
                                                                      ั
                                                           ี
                                                                ี
                                              ู
                                                    ื
                                                 ุ
                                    ี่
                                      ี
                                           ี่
                                                                                                   ู
                                                  ื
                                    ิ
                      เหมาะสมกับบรบท  รองลงมาคอ จัดประชมเพื่อวางแผนโดยผู้บรหารโรงเรยนร่วมกับครเกี่ยวกับ
                                                                                       ี
                                                                              ิ
                                                           ุ
                                                                                         ิ
                                                ี
                                  ู
                                                                   ิ
                                                                                                      ู
                                                                          ี
                                                                              ุ
                                                          ้
                      การน าหลักสตรไปใช้ เพื่อเตรยมความพรอมก่อนเปดภาคเรยนทกคร้    ัง และเปดโอกาสให้ครและ
                                                                                            ็
                                                                             ุ
                      ผู้ปกครองได้ก าหนดทศทางของหลักสตรตามความต้องการของชมชน  ผลวิจัยทเปนเช่นน้อาจเปน
                                                                                          ี่
                                                                                                   ี
                                         ิ
                                                                                                        ็
                                                       ู
                      เพราะว่า ผู้บรหารสถานศกษายังขาดความเชยวชาญในด้านหลักสตร ขาดการตระหนักถง
                                                                                   ู
                                   ิ
                                                                ี่
                                                                                                        ึ
                                              ึ
                                                                                                        ิ
                                                                                                ู
                                                                         ู
                      ความส าคัญ ในด้านการพัฒนาหลักสตรและการน าหลักสตรไปใช้ การจัดท าหลักสตรท้องถ่น
                                                       ู
                                                     ิ
                                                                                                      ี
                                                                                            ี่
                                                                                                  ู
                                                                                ี
                                                                                    ู
                                                                                    ้
                      บางคร้ ังไม่ตรงกับสภาพของท้องถ่นนั้นๆ ท าให้นักเรยนเกิดการเรยนรไม่เต็มท หลักสตรมมาก
                                                                     ี
                                      ี
                                          ี
                                                                                                ี
                                                                               ี
                      เกินไป ท าให้นักเรยนเรยนมากแต่ไม่ได้เกิดผล และจ านวนชั่วโมงเรยนในบางรายวิชามมากเกินไป
                                     ื่
                             ็
                                ู
                                 ึ
                                              ื่
                                                                    ื
                                ้
                                                              ุ
                      ท าให้เดกรสกเบอหน่าย เมอต้องเจอวิชานั้นทกวันหรอบ่อยเกินไป ซงสอดคล้องกับสมปอง เสง
                                                                                  ึ
                                                                                  ่
                                                                                                        ็
                                                ื่
                                                                                        ิ
                                                                    ็
                                       ี่
                      ดอนไพร (2555)  ทได้ศกษาเรองการศกษาความคดเหนเกี่ยวกับสภาพการบรหารงานวิชาการของ
                                                                 ิ
                                                       ึ
                                           ึ
                                              ื
                      โรงเรยน ในสังกัดเทศบาลเมองพระประแดง จังหวดสมทรปราการ ผลการวิจัยพบว่า ครผู้สอนของ
                           ี
                                                                     ุ
                                                                                                ู
                           ี
                                                                      ุ
                      โรงเรยนในสังกัดเทศบาลเมองพระประแดง จังหวัดสมทรปราการ มความคดเหน  เกี่ยวกับสภาพ
                                                                                       ิ
                                              ื
                                                                                 ี
                                                                                           ็
                            ิ
                      การบรหารงานวิชาการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมอพิจารณาเปนรายด้าน พบว่าส่วนใหญ่อยู่ใน
                                                                              ็
                                                                    ื่
                                                                                                       ู
                                                                 ุ
                      ระดับมาก  ได้แก่ ด้านการพัฒนาระบบประกันคณภาพในสถานศกษา ด้านการพัฒนาหลักสตร
                                                                                ึ
                                                             ู
                                                              ้
                                                                                             ึ
                             ึ
                                                          ี
                                                                                     ิ
                      สถานศกษา ด้านการพัฒนากระบวนการเรยนร และด้านการวัดและประเมนผลการศกษาตามล าดับ
   231   232   233   234   235   236   237   238   239   240   241