Page 157 - 044
P. 157
157
ี
3.วิธการลงโทษ
ิ
ุ
ื่
ุ
ฺ
อบนสะหนนได้ตั้งเงอนไขในการลงโทษเด็กไว้ สองประการ ดังน้ ี
ึ
ั
ี
้
่
หนง มเปาหมายเพื่อเด็กได้รบประโยชน์จากการลงโทษ
ั
ั
สอง ผู้สอนไม่ควรตเกินสามคร้ง นอกจากจะได้รบอนญาตจากผู้ปกครอง โดยท่าน
ี
ุ
มหัมมัดบนสะหนนได้กล่าวว่า ไม่สามารถตเดกเกินขอบเขตนอกจากจะได้การอนญาตจาก
ี
ุ
ู
ฺ
็
ิ
ุ
ผู้ปกครอง
ิ
1. การลงโทษทางด้านจตใจ
ี่
การลงโทษเดกทางร่างกายนั้นไม่สามารทจะกระท าได้นอกจากต้องผ่านการ
็
ี่
ิ
ี
ู
ี
ลงโทษทางด้านจตใจก่อน ทมรปแบบและวิธการลงโทษดังน้ ี
ื
1) ให้ค าตักเตอน
ิ
็
ี่
ึ
ั
ู
้
2) ให้ผู้ปกครองได้รบรถงนสัยมารยาทของเดกและให้ผู้ปกครองมส่วนร่วมใน
ี่
การแก้ไขเปลยนแปลงมารยาทของเด็ก
์
็
ี
3) มการเชอมสัมพันธระหว่างผู้สอนกับผู้ปกครองของเดก และผู้สอนมหน้าท ี่
ี
ื่
ี
ั
ต้องแจ้งให้ผู้ปกครองรบทราบเวลาเด็กขาดเรยน
ี
4) ในเมอเดกไม่ได้มการเปลยนแปลงแก้ไขตัวเอง ก็ควรใช้วิธอนในการลงโทษ
ื่
็
ื่
ี่
ี
ี
ื
ิ
ิ
คอ วิธการต าหนตามล าพัง หลังจากนั้นต าหนต่อหน้าเพื่อนฝูงจ านวนมาก
ื่
็
็
ี
ี
5) กักตัวเดกหลังจากได้แยกย้ายจากการเล่าเรยนโดยมเงอนไข อย่าห้ามเดกใน
ื่
ื่
การรบประทานอาหารและดม อันเนองเด็กต้องการอาหารเพื่อความ
ั
ิ
เจรญเตบโตและพัฒนาร่างกายให้แข็งแรง เพราะเปาหมายของการลงโทษคอ
้
ื
ิ
ี
่
ึ
็
การแก้ไขและเปลยนแปลงมารยาทของเดกเท่านั้น ซงไม่ได้มเปาหมายห้ามม ี
้
ี่
ิ
ิ
การเจรญเตบโตด้านร่างกายของเด็ก
ุ
ื่
ิ
ื
ี่
6) เงอนไขในการลงโทษทางจตใจ คอห้ามด่าและไม่ควรใช้ค าทไม่สภาพ
ี
ื
็
ุ
ี
ี
ผู้สอนสามารถเลอกการตเปนวิธสดท้ายจากวิธการลงโทษเด็กหลังจากได้ใช้
วิธการลงโทษทางจตใจไม่ส าเรจ แต่ต้องมเงอนไขดังน้ ี
ื่
ิ
ี
ี
็
ี
ื่
1. ผู้สอนควรลงโทษเด็กด้วยตนเองและไม่ควรสั่งผู้อนตแทนเพราะในการ
ี
็
ตของเดกด้วยกันนั้นเปนการแก้แค้น และผู้สอนควรใช้ความเมตตาใน
็
การต ี
ี
ี
ี่
ี่
2. ไม่ควรทจะตผู้เรยนในขณะทมความโกรธแค้นเพราะในความโกรธ
ี
ู
้
แค้นนั้นไม่ท าให้ผู้สอนส่เปาหมายจากการลงโทษ.