Page 61 - 040
P. 61
61
จากแนวคิดและลักษณะขององค์การแห่งการเรียนร และการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวกับ
ู้
ปัจจัยที่ส่งส่งผลต่อความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ทั้งในและต่างประเทศดังกล่าว ผู้วิจัยได้น ามา
วิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นปัจจัยที่จะใช้ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ โดยปัจจัยที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
หรือสามารถจัดเป็นกลุ่มปัจจัยเดียวกันได้จ านวน 11 ปัจจัย ดังนี้ 1) ปัจจัยด้านภาวะผู้น า 2) ปัจจัยด้าน
โครงสร้างขององค์การ 3) ปัจจัยด้านวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ 4) ปัจจัยด้านการสร้างสรรค์และถ่ายโอน
ู้
ความรู้ 5) ปัจจัยด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนร 6) ปัจจัยด้านการท างานเป็นทีม 7) ปัจจัยด้านการ
พัฒนาบุคลากร 8) ปัจจัยด้านกระบวนการบริหาร 9) ปัจจัยด้านบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์การ
10) ปัจจัยด้านการจูงใจ 11) ปัจจัยด้านความมีประสิทธิผล มีรายละเอียดดังน
ี้
1. ปัจจัยด้านภาวะผู้น า
ผู้น าหรอผู้บริหารเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการพัฒนาองค์การไปสู่องค์การแห่ง
ื
็
การเรียนรู้ และยังเป็นบุคคลที่มีบทบาทส าคัญที่จะท าให้องค์การประสบความส าเรจ กระบวนการที่
จะน าไปสู่ความส าเร็จและการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่างๆ นั้น ต้องอาศัยผู้น าเป็นหัวจักรส าคัญที่จะคอย
ก ากับดูแล และคอยขับเคลื่อนองค์การไปสู่เป้าหมายที่องค์การตั้งไว้ และต้องเป็นผู้น ามืออาชีพ โดย
มีภาวะผู้น าที่มีสมรรถนะในการบริหารการเปลี่ยนแปลง (ธีระ รุญเจริญ, 2550 : 160) ซึ่งเป็นลักษณะ
ส าคัญของยุคโลกาภิวัตน์ และจากการศึกษาจากแนวคิดและงานวิจัยจะพบว่าคุณลักษณะของภาวะ
ผู้น าที่ท าให้องค์การเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล คือ ภาวะผู้น าแบบเปลี่ยนสภาพ
(Transformational Leadership)
ภาวะผู้น าแบบเปลี่ยนสภาพประกอบด้วย
1. การเป็นตัวแบบอย่างของพฤติกรรม (Role Modeling)
2. การสร้างแรงบันดาลใจ (Inspirational Motivation)
3. ภาวะผู้น าเชิงวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership)
4. การมุ่งความสัมพันธ์เป็นรายคน (Individualized Consideration)
5. การกระตุ้นการใช้ปัญญา (Intellectual Stimulation)
6. การด ารงไว้ซึ่งอ านาจส่วนบุคคล (Maintaining a Source of Personal
Power)
สิ่งที่ผู้น าผู้น าแบบเปลี่ยนสภาพกระท าในสิ่งต่อไปนี้
1. ท างานอย่างมีจิตส านึก ด้วยใจรกและมีความภูมิใจต่องานที่ท า
ั
ื่
2. แสดงพฤติกรรมที่เป็นตัวอย่างในสิ่งที่ต้องการกระตุ้นให้ผู้อนกระท า
3. ประพฤติปฏิบัติอย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดเวลา
4. คิดออกไปนอกกรอบของงานไปสู่อนาคต (คิดแบบหลุดโลก)