Page 21 - 040
P. 21

21







                                      ดังนั้น  ผู้น าจึงมีบทบาทส าคัญในการใช้ปัจจัยการบรหารที่จะสร้างองค์การให้เป็น
                                                                                ิ
                                          ู้
                       องค์การแห่งการเรียนร  การวิจัยครั้งนี้ผู้วจัยได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยทั้งในและ
                                                         ิ
                       ต่างประเทศ  ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการบรหารและองค์การแห่งการเรียนรู้  แล้วน ามาวิเคราะห์เพื่อ
                                                        ิ
                                                                                   ู้
                       ก าหนดปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์การแห่งการเรียนร ดังนี้
                                      ในด้านแนวคิดองค์การแห่งการเรียนร  ผู้วิจัยได้น าแนวคิดเกี่ยวกับองค์การแห่ง
                                                                    ู้
                       เรียนรู้ของนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีชื่อเสียง 2 ท่าน คือ Peter M. Senge  และ Michael

                       Marquardt มาเป็นแนวทางในการวิจัย  ซึ่งแนวคิดทั้ง 2 ท่านก็คือ
                                                 Senge  (1990)  ได้เสนอวินัย 5 ประการที่จะต้องให้เกิดกับสมาชิกทุกคนในองค์การ

                                                                  ู้
                       เพื่อเสริมสร้างให้องค์การเป็นองค์การแห่งการเรียนร  ดังนี้ 1.ความรอบรู้แห่งตน (Personal Mastery)
                       2. แบบแผนความคิดอ่าน (Mental Models) 3. วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision) 4. การเรียนรู้ของทีม
                       (Team Learning) 5. การคิดอย่างเป็นระบบ (Systematic Thinking)  แนวความคิดของ  Senge

                       สอดคล้องกับแนวความคิดของ  Marquardt  (2002)  ซึ่งได้เน้นตัวแบบขององค์การแห่งการเรียนร
                                                                                                        ู้
                       ในเชิงระบบ  และมีบรรยากาศของการเรียนรู้รายบุคคลและกลุ่ม  ที่มีวิธีการเรียนรู้ที่เป็นพลวัต

                       ซึ่งประกอบไปด้วย  การคิดเชิงระบบ (Systematic Thinking)   การมีรูปแบบทางความคิด (Mental
                       Model)  การมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ  (Personal Mastery)  การเรียนรแบบชี้น าตนเอง  (Self-directed
                                                                              ู้
                       learning)  และการเสวนา (Dialogue)  สื่อสารกัน โดยใช้ทักษะส าคัญเหล่านี้สนับสนุนการเรียนรู้ของ

                                              ็
                       องค์การให้เกิดขึ้นได้อย่างเตมที่  มีการสอนคนของตนเอง ให้มีกระบวนการคิดวิเคราะห์เพื่อช่วยให้
                       เข้าใจในสรรพสิ่ง  สามารถเรยนรู้  จัดการ  และใช้ความรู้  เป็นเครื่องมือไปสู่ความส าเรจควบคู่ไปกับ
                                                                                               ็
                                               ี
                       การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย  โดยองค์ประกอบของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ประกอบด้วย
                       องค์ประกอบย่อย ๆ  ที่สัมพันธ์กันทั้ง  5  ระบบ ได้แก่ พลวัตการเรียนรู้ (Learning  Dynamics )

                       การปรับเปลี่ยนองค์การ (Organization  Transformation)  การเพิ่มอ านาจแก่บุคคล (Empowering
                                                          ู้
                       and  Enabling  People)  การจัดการความร (Knowledge Management )  และการประยุกต์ใช้
                       เทคโนโลยี (Technology Application)

                                       ส าหรับปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้
                                                                                        ั
                       ศึกษางานวิจัยของ สมคิด  สร้อยน้ า (2547 : บทคัดย่อ) ซึ่งได้ศึกษาการพัฒนาตวแบบองค์การแห่ง
                       การเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  โดยศึกษาปัจจัยทางการบริหาร

                       ทั้ง 11 ปัจจัย  ได้แก่  บรรยากาศและวัฒนธรรมของโรงเรียน การปฏิบัติงานของครูและทีมงาน
                       เป้าหมายและข้อมูลย้อนกลับการของปฏิบัติงาน  วิสัยทัศน์  พันธกิจและยุทธศาสตร การปฏิบัติด้าน
                                                                                            ์
                                            ู
                       การจัดการ  การพัฒนาครและทีมงาน  การจูงใจ  ภาวะผู้น าทางวิชาการ  เทคโนโลยีและระบบงาน
                       โครงสร้างของโรงเรียนและปฏิบัติด้านการบริหาร  ซึ่งสอดคล้องกับ  Marquardt และ Reynolds
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26