Page 16 - 040
P. 16
16
ิ
องค์การแห่งการเรียนรู้สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับการบรหารรูปแบบต่างๆได้ และองค์การแห่ง
การเรียนรู้ยังเป็นสิ่งที่สนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาสังคมให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ท าให้
องค์การสามารถด าเนินกิจการไปสู่เป้าหมายขององค์การ พร้อมทั้งมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
การพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ เป็นการเนนความส าคัญไปที่ความเป็นผู้น า
้
(Leadership) ความคิดความเข้าใจเป็นระบบ (Systems Thinking) และการเรียนรร่วมกันเป็นทีม
ู้
(Team Learning) (เดชน์ เทียมรัตน และ กานต์ดา มาฆะศิรานนท์, 2544 : 3) การที่องค์การใดจะ
์
สามารถพัฒนาเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ได้นั้นจะต้องประกอบด้วยหลายปัจจัยที่จะส่งเสริมให้
ู้
บุคลากรในองค์การตระหนักถึงความส าคัญและความจ าเป็นของการเรียนร มีการเรียนรอยู่ตลอด
ู้
เวลา และสามารถถ่ายโอนความรู้ไปยังสมาชิกอนในองค์การเพื่อให้เกิดผลอย่างต่อเนื่อง โดยการ
ื่
ปรับเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมและการเรียนรู้ เมื่อบุคลากรในองค์การถูกสร้างมีแรงจูงใจมีการ
สื่อสารที่เข้าใจกันดีแล้ว การน าองค์การไปสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ไม่ยาก
สถานศึกษาซึ่งเป็นองค์การทางการศึกษาและเป็นส่วนหนึ่งขององค์การทางสังคม
ที่มีบุคลากรในการด าเนินงานด้านการศึกษา และมีการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนเป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางด้านรางกาย จิตใจ สติปัญญา และคุณธรรม ตามพระราชบัญญัติการศึกษา
่
2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ดังนั้นสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นองค์การทางการศึกษา
ที่มีความส าคัญตอการศึกษาของประเทศ
่
ในสภาพปัจจุบันการจัดการศึกษาของสถานศึกษาไทยยังไม่ประสบผลส าเร็จเท่าที่
ควร เห็นได้จากคุณภาพของผู้เรียน ทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
คือ การสร้างผู้เรียนให้มีปัญญา คิดเป็น ท าเป็น และแก้ปัญหาเป็น สอดคล้องกับการวิจัยของ
วินัย เดชรัตนสุวรรณ์ (2545 : 87) ได้ท าการวิจัยเรื่อง การประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนสังกัด
เทศบาล เขตการศึกษา 5 ผลการวิจัยพบว่า มาตรฐานการศึกษาด้านผลผลิต มีปัญหาในการด าเนิน
การประกันคุณภาพการศึกษา คือ ผู้เรียนขาดความรับผิดชอบ ขาดความกระตือรือร้นในการอ่าน
ิ
การสนใจและใฝ่หาความรู้ ขาดคุณธรรม จรยธรรมและขาดวินัยในการด ารงชีวิต ทั้งยังไม่
สามารถที่จะคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และใช้เหตุผลได้ และมาสอดคล้องกับ รัตน์มณี รัตนปกรณ์
(2547 : 138) ได้ท าการศึกษาวิจัยเรอง การประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ื่
ช่วงชั้นที่ 1 - 2 สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุพรรณบุรี ผลการวิจัยพบว่า มาตรฐานการ
ิ
ศึกษาด้านผู้เรียน ปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ผู้เรียนขาดความสามารถในการคิดวเคราะห์ สังเคราะห์
และสรุปเป็นความคิดรวบยอดอย่างเป็นกระบวนการ และปัญหารองลงมา คือ ผู้เรียนขาดความ
กระตือรือร้นในการเรียน การไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง