Page 149 - 032
P. 149
129
ุ
ุ
ึ
ี
่
การจัดการจัดการเรยนการสอนแบบดาตีกาแบบครสัมพันธ์หรอแบบปอเนาะ ซงโรงเรยนและ
ื
ี
ิ
ี่
ุ
ชมชนจะต้องท างานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เกิดขึ้น และในระยะสั้นจ าเปนทจะต้องประสานผู้มจต
ี
็
ั
็
ุ
ี่
อาสาจากบนฝ่งมาเปนผู้สอน โดยชมชนอาจจะต้องเรยไรเงินจากคนในชมชนเองเพื่อให้เปน
ุ
็
ึ
ื
ิ
็
ั
สนน ้าใจเปนค่าเดอนทางและค่าตอบแทนเล็กน้อยให้ผู้สอน ส าหรบการจัดการศกษาในระยะยาว
ู
ี่
็
ิ
็
จ าเปนที่จะต้องส่งเสรมให้เดกและเยาวชนในเกาะบโหลนได้รบการศกษาทสงกว่าชั้นมัธยมศกษา
ั
ึ
ู
ึ
ตอนต้น โดยการผลักดันให้นักเรยนที่เรยนจบมัธยมต้นไปเรยนต่อจนจบระดับปรญญาตรและสราง
้
ี
ี
ี
ี
ิ
ความเข้มแข็งให้เยาวชนสามารถกลับมาสอนศาสนาให้คนในหม่บ้านและพัฒนามาหม่บ้านในด้าน
ู
ู
ี่
ื่
ิ
ั
อนๆ ดังที่ ซอหมาด ใบหมาดปนจอ (2557) กล่าวว่า อันดับแรกจะต้องเร่มทส านักงาน
ู
ิ
คณะกรรมการอสลามประจ าจังหวัดสตูล ที่ต้องเข้าไปผลักดันให้มมัสยิดที่จดทะเบียนถกต้องและม ี
ี
ี
อหม่าม มคณะกรรมการบรหารมัสยิด มทะเบยนสัปบรษ ให้มผู้รบผิดชอบ เพราะตอนน้ปญหาคือ
ี
ี
ิ
ุ
ุ
ี
ั
ั
ี
ี
ุ
ไม่มผู้รบผิดชอบอย่างเปนกิจจะลักษณะ เมอไม่มผู้รบผิดชอบโดยตรงก็จะท าให้การขับเคลอน
ี
ั
ื่
ั
ื่
็
ี
ั
ื่
ี
ื่
ตดขัดไม่ต่อเนอง จะอาศัยผู้มจตอาสาจากบนฝ่งไปช่วยก็คงไม่ต่อเนอง เพราะอยู่บนเกาะระยะ
ิ
ิ
ื่
ทางไกลและล าบากจะเกิดความเหนดเหนอย และ อาหมัด หลขาร (2558) กล่าวว่า คณะกรรมการ
็
ี
ี
ู
อสลามประจ าจังหวัดมบทบาทที่จะต้องเปนพี่ใหญ่ในการดแลกิจการทางศาสนาและการให้
ิ
็
ี
ิ
การศึกษาอสลาม โดยมัสยิดในชมชนเองจะต้องมบทบาทในการส่งเสรมการศึกษาศาสนาทั้ง 2 ภาค
ุ
ี
ิ
ั
คือภาคฟรฏอัยน์ (ภาคบังคับระดับปจเจกบุคคล) และภาคฟรฏกิฟายะฮ (ภาคบังคับระดับสังคม) ใน
ฺ
ั
ั
ู
ู
ิ
ั
ฺ
ส่วนของภาคฟรฏกิฟายะฮ(ภาคบังคับระดับสังคม)นั้น มัสยิดควรมแผนในการส่งเสรมเยาวชนใน
ี
ู
ุ
ู
ชมชนให้ได้เรยนศาสนาในระดับสงขึ้น ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมทั้งให้โอกาสเยาวชน
ี
ฺ
ิ
็
ู
ุ
เหล่านั้น ในการแสดงความสามารถในรปแบบของการอ่านคตบะฮ (เทศนาธรรม) การเปนอหม่าม
็
น าละหมาด และการบรรยายศาสนธรรม เปนต้น
ิ
ี
ส าหรับการศึกษาภาคสามัญและวิชาชพนั้น แม้ว่าค านยามมัสยิดใน พ.ร.บ. การ
็
บรหารองค์กรศาสนาอสลาม พ.ศ. 2540 จะไม่ได้ระบุไว้ แต่ก็ถอเปนหน้าที่ของมัสยิดที่จะต้องเข้า
ิ
ิ
ื
ี
ี
ิ
ุ
ไปดแลส่งเสรมให้สมาชกในชมชนมโอกาสศึกษาวิชาชพ และวิชาสามัญเกินภาคบังคับ และควร
ิ
ู
ี
ิ
ี
เปดโอกาสให้คนกล่มน้ได้เข้ามามส่วนร่วมในการพัฒนามัสยิดให้มากขึ้น
ุ
็
ิ
่
ึ
ื
นอกเหนอจากการส่งเสรมการศึกษาดังกล่าวซงเปนการศึกษาในระบบแล้ว มัสยิด
ิ
จะต้องส่งเสรมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอกด้วย ซงการศึกษาทั้งสองระบบน้ ี
ี
่
ึ
ั
ุ
ุ
มความส าคัญเปนอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการศึกษาของชมชนมสลมในปจจุบัน เนองจากสัปปุรษส่วน
ิ
ื่
ุ
็
ี
ิ
ี
ี
ใหญ่ไม่ได้อยู่ในวัยและสถานภาพที่จะศึกษาในระบบได้ ดังนั้นมัสยิดจึงต้องส่งเสรมให้มการเรยน
การสอน การอบรมในวาระต่างๆ ตามความเหมาะสม อาทิเช่น การอบรมศาสนาประจ าเดอน การ
ื
ุ
ี
อบรมเยาวชนประจ าป (ค่ายอบรมเยาวชนภาคฤดร้อน) การอบรมมุอัลลัฟ(มสลิมใหม่) การอบรม
ู