Page 151 - 032
P. 151
131
ื่
ี
ี
ิ
แพร่กระจาย เมอความด ความชั่ว ต้องใช้มาตรฐานแห่งศาสนาตัดสน อกทั้งการสถาปนาความดให้
ี
็
ั
ิ
้
่
เปนเสาหลักของสังคม และการขจัดปดเปาความชั่วราย ล้วนต้องอาศัยอ านาจมาบรหารจัดการ
ทั้งส้น ดังนั้น มัสยิดบ้านเหนอจึงด ารงอยู่ทั้งในฐานะศาสนสถาน และสถาบันบรหารจัดการความด ี
ิ
ิ
ื
ื
็
ิ
ึ
ุ
ความชั่วในสังคมด้วย เหนได้จากการจัดตั้ง ศูนย์บรหารกิจการชมชน มัสยิดบ้านเหนอ ขึ้น ซง
่
ู
ุ
ี
็
สะท้อนว่ามัสยิดท าหน้าที่เปนสถาบันการเมองที่ได้ก้าวล่วงไปส่การจัดการวิถชมชนด้วย
ื
ี
็
3. ด้านการศึกษาตามอัธยาศัย ส่วนใหญ่เหนว่า จะต้องใช้โรงเรยนสามัญในฐานะ
ึ
็
ที่เปนกลไกของรัฐเติมเต็มในส่วนที่ยังขาดอยู่ ทั้งน้ต้องค านงถงอัตลักษณและสอดคล้องกับวิถของ
์
ึ
ี
ี
ึ
ี
้
ึ
คนในชมชน ซงนอกจากจะจัดการเรยนการสอนให้คนในชมชนได้รถงหลักวิชาการศาสนาขั้น
่
ู
ุ
ุ
ึ
ู
้
ู
ิ
ี่
ุ
์
พื้นฐานแล้วก็จะต้องให้รถงอัตลักษณของชมชนทเกี่ยวข้องกับศาสนาด้วย เช่น การให้ครอสลาม
ศกษาเปนผู้น าและเร่มต้นในกระบวนการจัดการเรยนการสอน ครโรงเรยนสามัญจะต้องเปน
ี
็
ี
ึ
็
ิ
ู
ี
แบบอย่างสร้างแรงจูงใจและกระต้นให้ผู้ที่พอจะมความร้พื้นฐานทางด้านศาสนากล้าที่จะสอนเดกๆ
็
ุ
ู
ึ
ิ
ุ
ิ
ุ
และคนในชมชน ดังที่พระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พุทธศักราช 2542 มาตรา 15 ระบว่า การ
ี
จัดการศึกษาม 3 รปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
ู
ี
ุ
มาตรา 25 ระบุว่า รัฐต้องส่งเสรมการด าเนนงานและจัดตั้งแหล่งเรยนรตลอดชวิตทกรปแบบ ได้แก่
้
ิ
ิ
ี
ู
ู
ห้องสมดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร อทยาน
์
์
ุ
ุ
์
ี
้
ู
ู
ื่
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ศนย์การกีฬาและนันทนาการ แหล่งข้อมลและแหล่งการเรยนรอน
ู
ุ
ึ
ี
ิ
ุ
อย่างเพียงพอ และมประสทธภาพ และมาตรา 29 ระบว่า ให้สถานศกษาร่วมกับบคคล ครอบครว
ั
ิ
ี
ุ
ชมชน องค์กรชมชน องค์กรปกครองส่วนท่องถ่น องค์กรชมชนชน องค์กรวิชาชพ สถาบันศาสนา
ิ
ุ
ุ
สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอนๆ ส่งเสรมความเข้มแข็งของชมชนโดยจัดกระบวนการ
ิ
ุ
ื่
ู
้
ู
ื
ู
ุ
ี
ี
เรยนร้ในชมชน มการจัดการด้านการอบรม มการแสวงหาความร้ ข้อมลข่าวสาร และรจักเลอกสรร
ี
ู
ุ
ิ
ู
ั
ภมปญญา และวิทยากรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาชมชนให้สอดคล้องกับสภาพปญหาและความต้องการ
ั
ี
ี
ี
ุ
ุ
์
ี่
รวมทั้งวิธการสนับสนนให้มการแลกเปลยนประสบการณพัฒนาระหว่างชมชน เช่นเดยวกับที่
สไลมาน ยังปากน ้า ( 2557) กล่าวว่า ในการจัดการศึกษาอสลามระดับการศึกษาอสลามตามอัธยาศัย
ุ
ิ
ิ
ี
โรงเรยนสามัญของรัฐที่อยู่บนเกาะจะต้องเข้าไปมส่วนร่วมในการจัดการเรยนการสอนตามอัธยาศัย
ี
ี
ี
ู
ื่
ด้วยไม่มากก็น้อย เช่น เรองงบประมาณในการจัดการเรยนการสอน เรองครผู้สอน เรองการ
ื่
ื่
ประสานงานเพื่อให้เกิดการเรยนการสอน
ี
ผู้วิจัยเหนว่า โรงเรยนสามัญในฐานะทมบคลาทมความรและมศักยภาพ สามารถท ี่
็
ุ
ี่
ู
้
ี
ี
ี่
ี
ี
้
จะเข้าไปช่วยผลักดันและขับเคลอนโดยการสรางการมส่วนร่วมกับชมชน ทั้งน้ ีการศกษาตาม
ื่
ุ
ี
ึ
ี
ึ
ี
ี
็
ื
็
ุ
อัธยาศัยถอเปนการศึกษาที่บุคคลทุกกล่มสามารถเข้าถงได้ และมความจ าเปน หากมโรงเรยนมการ
ี
ุ
ื
ช่วยเหลอและผลักดันจะท าให้ชมชนมชวิตชวาในหลักปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับศาสนามากขึ้น ทั้งยังจะ
ี
ี
ี