Page 161 - 031
P. 161
146
ิ
ิ
ิ
ี่
็
ั
ี
ข้อ พบว่า ผู้บรหารมีรายงานผลการปฏบัตงานต่อผู้ทมส่วนเกี่ยวข้องได้รบทราบเปนอันดับดับแรก
็
็
ิ
ทั้งน้อาจเปนเพราะโรงเรยนมความจ าเปนทจะต้องด าเนนการในส่วนของการรายงานผลการ
ี
ี
ี
ี่
ึ
ิ
ิ
ิ
่
ุ
็
ึ
ปฏบัตงานเพราะการรายงานผลเปนส่วนหนงของการด าเนนงานของการประกันคณภาพการศกษา
ุ
ี่
ของโรงเรยนทก าหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธการประกันคณภาพ
ี
ี
ี่
ึ
ึ
็
ี
ี่
การศกษา 2553 หมวด 1บททั่วไป ข้อท 6 ให้สถานศกษาจัดท ารายงานประจ าปทเปนรายงาน
ุ
ประเมนคณภาพภายในเสนอต่อคณะกรรมการสถานศกษา หน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานท ี่
ิ
ึ
เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและเปดเผยรายงานนั้นต่อ สาธารณชน ทั้งน้ถ้าหากโรงเรยนไม่ด าเนนการ
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ี
หน่วยงานต้นสังกัดก็จะท าการตดตามเพื่อให้ด าเนนการและจัดส่งให้ถกต้องถ้าหากโรงเรยนไม่
ิ
ู
จัดท ารายงานส่งจะส่งผลให้โรงเรยนไม่สามารถรบการประเมนจากหน่วยงานต้นสังกัดและจากสม
ี
ั
ิ
ี
ื
ั
ื่
ศ.ได้ จะท าให้โรงเรยนไม่ได้รบความน่าเชอถอจากผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป
ิ
ี
ู
ี
2.การเปรยบเทยบกระบวนการบรหารงานตามทัศนะของครโรงเรยนเอกชนสอน
ี
ิ
ึ
ี่
์
ศาสนาอสลามจังหวัดยะลา ทมประสบการณ วุฒการศกษา เพศ และขนาดสถานศกษาแตกต่างกัน
ิ
ี
ึ
วิเคราะหโดยใช้ค่า t-test และค่า F-test (One way ANOVA) โดยทดสอบความแตกต่างเปนรายค่ ู
์
็
ิ
ี
ด้วยวิธการของ Scheffe ก าหนดระดับนัยส าคัญทางสถต ระดับ 0.05
ิ
ี
ิ
ี
ผลการเปรยบเทยบความแตกต่างรายค่ของกระบวนการบรหารงานตามทัศนะของ
ู
ู
ี
ี
ี่
ู
ิ
ครโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจังหวัดยะลา ทมเพศต่างกันพบว่าครทมเพศต่างกันมความ
ี
ี่
ี
ิ
ิ
ิ
็
ี
คดเหนต่อกระบวนการบรหารของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดยะลา ไม่แตกต่าง
ิ
ิ
ี
กัน ไม่สอดคล้องกับสมมตฐาน อาจเปนเพราะว่าการด าเนนการบรหารงานในโรงเรยนเอกชนสอน
ุ
ิ
็
ี
ิ
ู
ู
ุ
ศาสนาอสลามในจังหวัดยะลาได้ให้ความส าคัญกับครทกคนอย่างเท่าเทยมกันท าให้ครเพศชายและ
ิ
็
ี
ิ
หญงมความคดเหนต่อกระบวนการบรหารไม่แตกต่างกัน
ิ
ู
ิ
ผลการเปรยบเทยบความแตกต่างรายค่ของกระบวนการบรหารงานตามทัศนะของ
ี
ี
ี
ครโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจังหวัดยะลา ทวุฒการศกษาต่างกันพบว่า การศกษาระดับต า
ิ
ึ
ิ
ึ
่
ี่
ู
ิ
ู
ึ
ี
ี่
ิ
่
ี
ี
ิ
กว่าปรญญาตร มทัศนะแตกต่างกับการศกษาระดับปรญญาโทโดยครทม วุฒการศกษาระดับต ากว่า
ึ
ปรญญาตร มทัศนะต่อกระบวนการบรหารของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดยะลา
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ี
ิ
ี่
่
ึ
ิ
ึ
ี่
ี
อยู่ในระดับมาก ( X =3.67) ซงมากกว่าครทม วุฒการศกษาระดับปรญญาโททอยู่ในระดับปาน
ู
ู
ี
ิ
็
ุ
ิ
ู
ี่
ึ
กลาง ( X =3.20) สอดคล้องกับสมมตฐาน อาจเปนเพราะว่าครทมวุฒการศกษาสงกว่าปรญญาตร มี
ิ
ี
่
้
ู
ิ
ิ
ี
ิ
ความรความเข้าใจในการบรหารงานของโรงเรยนได้ดกว่าครทมวุฒการศกษา ต ากว่าปรญญาตร
ี
ี
ึ
ู
ี่
ี
ี่
ิ
ิ
ี
็
ู
ความแตกต่างกันของวุฒการศกษา อาจเปนส่วนหนงทท าให้ครมทัศนะต่อกระบวนการบรหารงาน
ึ
่
ึ
ของโรงเรยนมความแตกต่างกัน สอดคล้องกับงานวิจัย ของประสทธ์ ิ นาคมูล (2538) ทท าการวิจัย
ี
ิ
ี
ี่

