Page 164 - 031
P. 164
149
ี่
ิ
ิ
ี
ี่
ี
ี
เกี่ยวกับการวางแผนเพื่อให้ได้แผนทดและมประสทธภาพ ในการน าแผนไปใช้ควรทจะต้องมการ
ื
็
ึ
ี
แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะหรออาจให้คณะกรรมการประกันคณภาพการศกษาของโรงเรยนเปน
ุ
ิ
ผู้ตดตามการใช้แผนและท าหน้าทประเมนแผน เพื่อให้การด าเนนงานต่างๆของโรงเรยนมความ
ี
ี
ี่
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ี่
สอดคล้องกับแผนทได้วางไว้ตลอดจนสามารถน าผลการปฏบัตงานมาประเมนแล้วน าไปพัฒนา
หรอปรบปรงแผนต่อไป
ื
ั
ุ
ิ
็
3.2 ด้านการจัดสรรทรพยากร ผู้บรหารมความเหนว่าโรงเรยนเอกชนสอนศาสนา
ี
ี
ั
ส่วนใหญ่มงบประมาณไม่เพียงพอ อาคารสถานทไม่ค่อยมความพรอม และ ขาดแคลนครทมความร ู ้
ี
ู
้
ี่
ี
ี่
ี
์
ทตรงเอกสอดคล้องกับงานวิจัยของอทศ ไชยศรสทธ ( 2543) ศกษาวิจัยเรอง การศกษาสภาพการ
ุ
ึ
ึ
ุ
ี
ิ
ี่
ื่
ิ
ี
ปฏบัตงานตามเกณฑ์มาตรฐานการจัดการศกษาด้านกระบวนการบรหารในโรงเรยนสังกัดเทศบาล
ึ
ิ
ิ
นครขอนแก่น พบว่า ปญหาในการปฏบัตงานตามเกณฑ์มาตรฐานการจัดการศกษาด้าน
ึ
ั
ิ
ิ
ู
้
ู
ิ
ี
ี่
ุ
ื
ี่
ี
กระบวนการบรหารคอ ขาดครและบคลากรทมความรความเชยวชาญเฉพาะด้านเช่นเดยวกับ
์
ุ
ิ
ึ
ุ
ี
ึ
งานวิจัยของสวรรณา ศรบูรพรภรมณ (อ้างถงใน สวาทน สลอ่อน, 2549) ศกษาวิจัยเรอง การ
ื่
ี
ิ
ี
บรหารโรงเรยนทได้รบการรบรองคณภาพมาตรฐานคณภาพการศกษาจากส านักงานคณะกรรการ
ี
ิ
ุ
ั
ี่
ึ
ั
ุ
ุ
การศกษาเอกชน พบว่า สภาพและปญหาการบรหารโรงเรยนตามโครงการรบรองมาตรฐานคณภาพ
ิ
ั
ั
ึ
ี
ี่
ู
ื
ุ
คอ การสรรหาบคลากรได้ไม่ตรงกับสายงานทต้องการ ผู้บรหารได้เสนอแนะเกี่ยวกับรปแบบ
ิ
ี
ั
ี่
ั
ื
ี
ี
กระบวนการจัดสรรทรพยากร ทดคอโรงเรยนจะต้องมการวางแผนจัดสรรทรพยากรและจะต้อง
ี่
ึ
ึ
ี
ี
ี
ี
ค านงถงงบประมาณทโรงเรยนมอย่างจ ากัด โรงเรยนจะต้องเรยงล าดับความส าคัญของการจัดสรร
ั
ี่
ี
ั
ทรพยากร โรงเรยนจะต้องมการตรวจสอบจ านวนและสภาพของทรพยากรต่างๆเพื่อทจะสามารถ
ี
ี
เปนข้อมูลในการวางแผนและตัดสนใจในการอนมัตให้จัดหาส่งต่างๆทยังมไม่เพียงพอและ
็
ี่
ิ
ุ
ิ
ิ
ี่
็
ุ
ิ
ุ
ุ
ั
ี
ั
ปรบปรงในส่วนทช ารด ในส่วนของทรพยากรบคคลถอได้ว่าเปนส่งส าคัญทสดในโรงเรยน
ุ
ื
ี่
ี
็
ี
ี่
ี
ิ
ุ
โรงเรยนจ าเปนทจะต้องจัดหาให้เพียงพอโรงเรยนจะต้องมการประเมนอัตราก าลังของบคลากรให้
ุ
ี
เพียงพอกับต าแหน่งและงานต่างๆทมในโรงเรยนโรงเรยนจะต้องมการพัฒนาบคลากรให้ม ี
ี
ี
ี
ี่
ึ
่
ความสามารถตรงกับงานทเขารบผิดชอบและให้ขวัญก าลังใจซงจะส่งผลให้บคลากรรกในงานและ
ุ
ี่
ั
ั
สามารถท างานได้อย่างเต็มความสามารถ
ี
ิ
็
3.3 ด้านการกระต้นหรอส่งเสรมให้ปฏบัตงานผู้บรหารมความเหนว่าโรงเรยน
ิ
ุ
ื
ิ
ิ
ี
ี
เอกชนสอนศาสนาอสลาม ส่วนใหญ่บคลากรในโรงเรยนมภาระงานมากเกินไป และบคลากรไม่
ุ
ิ
ุ
ี
ค่อยพอใจกับค่าตอบแทนทได้รบสอดคล้องกับงานวิจัยของโชตรส โสภณมณ (2543) ศกษาวิจัย
ั
ี่
ึ
ิ
ี
ี
เรองการบรหารโรงเรยนอนบาลเอกชนในกรงเทพมหานคร ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พบว่า ค่าจ้างท ี่
ุ
ิ
ื่
ุ
ิ
ิ
ุ
ิ
ั
ิ
ได้รบไม่เพียงพอบคลากรต้องหารายได้พิเศษเสรมจากงานประจ า ส่งผลให้ประสทธภาพการท างาน
ิ
ื
ี
ี่
ี
ุ
ู
ด้อยลง ผู้บรหารมความเหนเกี่ยวกับรปแบบกระบวนการกระต้นหรอส่งเสรมให้ปฏบัตงาน ทดดังน้ ี
ิ
็
ิ
ิ