Page 38 - 029
P. 38
22
ี
ความวา :“ จงกลาวเถิด(มุฮมมัด ผูที่มความรูกับผูทไมมีความรูนั้น
ี่
ั
ไมแตกตางกันดอกหรือ”
( 9 : อัล-ซูมัร)
ั
พระองคอลลอฮฺ ทรงดํารัสไวในอัลกุรอานวา
s
÷
ø
u
t
ô
Î
ß
Ï
ø
﴾ ∩⊆⊂∪ tβθϑÎ=≈yè9# $ ωÎ) ! $yγè=É)èƒ $tΒuρ ( Ĩ$¨Ζ=Ï9 $yγç/ØΣ n ã≅≈VΒF{# $ šù=?ρ ﴿
(43 / تﻮﺒﻜﻨﻋ )
ุ
ความวา : “และเหลานี้คออปมาทั้งหลายที่เราไดเปรียบเทียบมัน
ื
ั
ํ
สาหรบปวงมนุษย แตไมมีผใดตระหนักมันไดนอกจากผูม ี
ู
ความรูเทานั้น”
ั
( อัล-อนกาบูต :43)
นากจากนั้นทานนบีมูฮมมัด ยังไดยกยองผูที่มีความรูใหอยูในฐานะที่ถัดไปจาก
ั
บรรดาศาสดา
ดังที่ทานนบีมุฮมมัด ไดกลาววา
ั
(( ... ﺀﺎﻴﺒﻧﻷﺍ ﺔﺛﺭﻭ ﺀﺎﻤﻠﻌﻟﺍ ﻥﺍ…))
223 ( / ﻪﺟﺎﻣ ﻦﺑا ,3638 / دوادﻮﺑأ ﻩاور )
ื
ความวา : “...บรรดาผูที่มีการศึกษา มความรู คอทายาทของบรรดา
ี
ศาสดา...”
ิ
(รายงานโดย อะบู ดาวูด/3638,อบนุมาญะฮฺ/223)
ดวยความรูจากการศึกษานั้นมนุษยสามารถตัดสินใจกระทําการใดๆไดอยาง
ั
ถกตองสามารถกอใหเกิดผลดีตอตนเองและสังคมโดยรวมทั้งยังชวยสนับสนุนใหสงคมและ
ู
ุ
ประเทศชาติครอบครองทรัพยากรธรรมชาติเพื่อผลประโยชนของชนในชาติทกคน และดวยความรู
ึ
ี่
นั้นจะเปนสาเหตุใหปจเจกบุคคลและสังคมมีความเขมแข็ง และมั่นคงโดยเฉพาะอยางยิ่งผูทศกษา