Page 36 - 029
P. 36
20
ดังที่พระองคอลลอฮฺ ทรงดํารัสไวในอัลกุรอานวา
ั
Íi
÷
Ï
à
Ï
!
Ï
y
y
ö
u
u
t
Ï™$yϑ¡¡9# $ z⎯Β ãΑ”∴ƒuρ $YèϑsÛρ $]ùθyz s−9ø9# $ ãΝ6ƒÌƒ ã ⎯µÏG≈tƒ#™ ⎯Βuρ
ã
!
÷
;M≈tƒUψ šÏ9≡Œ ’Îû χÎ) 4 !$yγÏ?θtΒ y‰èt/ š⇓‘F{# $ ⎯‘sã‹ù s [™$tΒ
ö
s
Ç ÏµÎ/
ö
ó
∩⊄⊆∪ šχθè=É)ètƒ 5Θθs)j9 Ï
ö
÷
( 24 : ﻡﻭﺮﻟﺍ )
ความวา “และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค คือ ทรง
ใหพวกเจาเห็นสายฟาแลบเปนที่หวาดกลัว และเปนความหวัง
และทรงหลั่งน้ําลงมากจากฟากฟา และทรงใหแผนดินมีชีวิตชีวา
ั
ดวยมัน (น้ําฝน) หลงจากการแหงแลงของมัน แทจริงในการนั้น
ู
ยอมเปนสัญญาณแกหมูชนผใชสติปญญา”
(อรรูม : 24)
ั
ี่
ึ
จากอายุฮฺอลกุรอานขางตน ลวนแลวแตทจะบงชี้ใหเห็นถงความสําคัญของ
ั
ิ
การศึกษาในอิสลามทั้งสิ้น ดังนั้นระบอบอิสลามจึงกําหนดใหเปนวาญิบ (จําเปน) บนมุสลมทุกคน
ี่
ิ
ทจะตองทําการศึกษาหาความรูเพื่อจะไดนําเอาความรูไปสูการปฏิบัติตามหนาที่ทตนเองรับผดชอบ
ี่
ทงที่เปนความรับผดชอบโดยสวนตัว และความรับผดชอบโดยสวนรวม
ิ
ิ
ั้
ดังที่ทานนบีมุฮมมัด ไดกลาววา
ั
(( ﻢﻠﺴﻣ ﻞﻛ ﻰﻠﻋ ﺔﻀﻳﺮﻓ ﻢﻠﻌﻟﺍ ﺐﻠﻃ ))
( 224 / ﻪﺟﺎﻣ ﻦﺑ ا ﻩاو ) ر
ิ
ความวา : “การแสวงหาความรูนั้น เปนฟรฎเหนือมุสลมทุกคน”
(รายงานโดย: อบนุ มาญะฮ / 224)
ิ