Page 386 - 022
P. 386

386







                                                                                ็
                                                                    ื่
                        ุ
                                                      ี
                                                               ี
                                                                                     ี
                                      ี่
                                        ิ
                       อละมาอ์ท่านใดทปฏเสธรายงานหะดษของสตรอันเนองจากความเปนสตร” (Al-Shawkani,  2005:
                                                                                     ุ
                                                       ี
                                                                                          ึ
                                                        ี
                                                                                ิ
                                                                                                        ี
                                   ึ
                                                                                            ั
                       8/343) ดังนั้นจงเกิดค าถามว่า หากสตรมความบกพร่องทางปญญาจรง เหตไฉนจงรบรายงานหะดษ
                                                                         ั
                                                                                     ี
                                            ื่
                                                                                                        ็
                                                                                             ี่
                       จากพวกนาง ท าไม่จงเชอในความเปนพยานของพวกนางในเรองหะดษ ทั้งๆทหะดษนั้นเปน
                                         ึ
                                                                              ื่
                                                       ็
                                                                                                 ี
                             ี่
                                                   ็
                                      ี
                                                                                                  ี
                       แหล่งทมาของชะรอะฮ์ทส าคัญเปนอันดับสองรองจากอัลกุรอาน ซงอาจท าให้เกิดความเสยหายแก่
                                                                               ่
                                            ี่
                                                                               ึ
                                           ี
                                                 ี่
                       ชะรอะฮ์ก็ได้ นอกจากน้กล่มทเหนว่าสตรมความเปนอะฮ์ลยะฮ์ทางการเมองได้อ้างหลักฐานทนาง
                                                                                     ื
                                              ุ
                                                           ี
                                                                                                      ี่
                                                                         ี
                                                          ี
                          ี
                                                   ็
                                                                  ็
                                                              ่
                                         ุ
                        ุ
                                                               ึ
                                                                    ุ
                                                                                    ิ
                               ี
                                                   ุ
                                                                                                       ี
                       อมม์ ฮานอ์ได้ให้การค้มครองแก่บตรชายคนหนงของฮบัยเราะฮ์ในวันพิชตมักกะฮ์ และท่านนบ 
                                                                                  ี
                                                           ์
                                                                                                     ั
                                                                                    ี
                       ได้รบรองการค้มครองของนางโดยสมบูรณ (Bukhari:  3171) หากสตรมความบกพร่องทางปญญา
                          ั
                                    ุ
                                                                                            ั
                                                                                         ึ
                                                                                     ี
                                                          ื
                                              ี
                                                                          ุ
                                                                     ิ
                                        ็
                       และบั่นทอนความเปนอะฮ์ลยะฮ์ทางการเมองของนางจรง เหตไฉนท่านนบ  จงรบรองการให้การ
                                   ุ
                                  ุ
                        ุ
                                                          ี
                                          ึ
                                          ่
                                                   ุ
                       ค้มครองแก่บรษคนหนงของนางอมม์ ฮานอ์
                                                                          ี่
                                                                                         ี
                                                                                        ี่
                                                                             ็
                              ด้วยเหตน้ ีผู้วิจัยเหนด้วยอย่างยิ่งกับอบู ชกเกาะฮ์ทเหนว่า ในยุคทมความก้าวหน้าทาง
                                                                  ุ
                                     ุ
                                              ็
                                         ี
                                                       ี่
                                                                      ื
                                     ุ
                                                                  ื่
                       วิชาการอย่างปจจบันน้ จ าเปนอย่างยิ่งทจะต้องใช้เครองมอสมัยใหม่ในการศกษาวิจัยทางวิชาการใน
                                                                                      ึ
                                   ั
                                              ็
                                                     ี่
                        ื่
                       เรองเกี่ยวกับศักยภาพของสตรเพื่อทจะทราบให้แน่ชัดว่าพวกนางมความบกพร่องในด้านใดบ้าง มี
                                                                               ี
                                                ี
                                                                                                   ี่
                                                                                      ี
                                                                                                     ี
                                                                          ื่
                       ความบกพร่องอยู่ในระดับไหน ความบกพร่องนั้นเกิดข้นเมอไรและมสตรรอยละเท่าไรทมความ
                                                                                   ี
                                                                                        ้
                                                                      ึ
                                                           ี
                       บกพร่อง ในขณะเดยวกันจะต้องศกษาวิจัยอกว่าพวกนางมความโดดเด่นในด้านใดบ้าง มความโดด
                                                                                                 ี
                                                   ึ
                                                                       ี
                                       ี
                                                            ึ
                                                                                     ี
                                                                ื่
                       เด่นอยู่ในระดับใดและความโดดเด่นนั้นเกิดข้นเมอไร ด้วยข้อมูลดังกล่าวน้สามารถทจะน าเสนอส่ง
                                                                                                        ิ
                                                                                              ี่
                                                                                            1
                                    ุ
                                                                ุ
                           ุ
                         ี
                                                    ี
                        ี่
                                                              ั
                       ทมคณค่ายิ่งต่อสนนะฮ์ของท่านนบ  ในยุคปจจบัน (Abu Shuqqah, 1999: 1/280)
                              2. จิตสานกทางการเมืองของสตร  ี
                                      ึ

                                                                                           ี่
                                                                     ็
                              การท าความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกทางสังคมเปนพื้นฐานส าคัญในการทจะเข้าใจเกี่ยวกับ
                                                                       ี
                                                ี
                                                                                           ู
                                                                          ั
                       กิจกรรมทางการเมองของสตรในสังคมอสลาม แม้ว่าสตรได้รบการผ่อนปรนไม่ถกบังคับให้ไปเข้า
                                      ื
                                                         ิ
                                                   ี่
                                                                                                    ี่
                                                               ิ
                                                    ี
                       ร่วมในกิจกรรมศาสนาบางอย่างทมลักษณะในเชงสังคม เช่น การละหมาดรวม (ญะมาอะฮ์) ทมัสยิด
                                                                                             ี
                                          ุ
                                            ์
                                                         ิ
                         ื
                       หรอการละหมาดวันศกร แต่ได้บัญญัตส่งเสรมให้พวกนางออกไปร่วมเปนสักขพยานและร่วม
                                                                                       ็
                                                              ิ
                                            ิ
                                               ์
                                                                                                       ื
                       ละหมาดวันอด ทั้งอดอัลฟตรและอดอัลอัฎฮาทมศ็อลลา  แม้ว่าพวกนางอยู่ในช่วงการมประจ าเดอน
                                       ี
                                  ี
                                                               ุ
                                                                                               ี
                                                    ี
                                                              ี่
                                                                ื
                             ี
                                                                                             ี
                                                                    ุ
                                                                                                        ุ
                       ก็ตาม อกทั้งท่านนบ  ยังได้ก าชับให้สตรทมีเส้อคลมหลายตัวให้ยืมแก่เพื่อนสตรทไม่มเส้อคลม
                                                                                               ี่
                                                           ี
                                                                                                    ื
                                                                                                  ี
                                        ี
                                                             ี่

                       1
                                                                         ี่
                                                  ั
                                                                     ี
                        ส าหรบประเด็นความบกพร่องทางปญญาและศาสนาของสตรตามทปรากฏในหะดษนั้น บรรดาปวงปราชญ์และ
                            ั
                                                                                    ี
                                                       ็
                                                          ี่
                        นักวิชาการทั้งอดตและปจจบันมความเหนทหลากหลายมาก ซงผู้วิจัยไม่สามารถทจะน าเสนอมาทั้งหมดได้
                                                 ี
                                     ี
                                           ั
                                             ุ
                                                                                       ี่
                                                                        ึ
                                                                       ่
                                       ื
                                          ี่
                                                                                         ู
                                           ี
                        เพราะข้อจ ากัดของพ้นท อกทั้งไม่ได้เปนวัตถุประสงค์ของวิจัยโดยตรง ผู้สนใจสามารถดเพ่มเตมได้ในบทความ
                                                                                             ิ
                                                                                           ิ
                                                    ็
                                                                                                      ี
                         ื่
                        เรอง “                                     ” เขียนโดย มุหัมมัด อบ อัลลัยษ์ อัลค็อยรอาบาดย์ ใน
                                                                                                 ิ
                                                                                    ู
                        วารสาร “             ” ฉบับท 1 ปท 1 ป ค.ศ. 2005 ออกโดย Faculty of Quranic and Sunnah Studies,
                                                        ี่
                                                           ี
                                                       ี
                                                    ี่
                        Kolej Universiti Islam Malaysia.
   381   382   383   384   385   386   387   388   389   390   391