Page 384 - 022

384

ื่
ิ
ิ
ื
ื
ุ
เมอส้นสดหรอปลอดจากข้อบกพร่องดังกล่าวแล้ว พวกนางอาจประกอบศาสนกิจหรอท าอบาดะฮ์
ื
และย าเกรงต่อพระเจ้าเหนอกว่าบรษบางคนก็ได้
ุ
ุ
ี่
ี
ื
ี
์
ดังนั้น ค าว่าสตรมความบกพร่องหรอไม่สมบูรณในตัวบทหะดษทกล่าวมาข้างต้นไม่ใช่
ี
่
ึ
เปนความบกพร่องดั้งเดมตายตัว แต่เปนความบกพร่องในภารกิจบางอย่างซงเกี่ยวข้องกับ
็
ิ
็
ี่
ิ
ึ
่
ื
ี
ี
ความสามารถทั่วไปหรอความสามารถเฉพาะ ซงไม่ได้ปฏเสธว่ามสตรบางท่านทพระองค์อัลลอฮ ฺ
ื่
ู
ทรงประทานให้มความสามารถสงในบางเรอง ซงอาจเปนไปได้ว่าในเรองนั้นโดยทั่วไปทั้งสตรและ
่
ึ
็
ื่
ี
ี
ี
ี่
ุ
็
ี
ุ
ื
ื่
ุ
ุ
ี
บรษก็มความบกพร่องเช่นกัน และในบางเรองเปนทประจักษ์ว่าสตรอาจมความสามารถเหนอบรษ
ึ
่
ซงข้นอยู่กับความเชยวชาญทมาจากการขวนขวายและความสามารถเฉพาะของพวกนาง
ี่
ี่
ึ
ี
ั
ุ
ั
ุ
็
ื่
ส าหรบความบกพร่องทางปญญาของสตรในเรองการเปนพยาน สตรสองคนเท่ากับบรษ
ี
่
ึ
็
ึ
ิ
หนงคนตามตัวบทหะดษนั้น หมายถงการเปนพยานในเรองหน้ ีสนตามทปรากฏในอัลกุรอาน
ื่
ี่
ี
1
สเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ โองการท 282 ส าหรบการเปนพยานในเรองอนๆ นั้นอัลกุรอานได้ก าหนด
ื่
ู
ื่
ั
ี่
็
2
็
ุ
ื่
ื่
็
ิ
ี่
เงอนไขผู้เปนพยานจะต้องเปนบคคลทอะดาละฮ์ ( ) และไม่ได้ก าหนดเงอนไขชนดเพศ
ู
็
ี
ี่
3
สภาวะแต่อย่างใด แม้ว่าจ านวนผู้เปนพยานถกก าหนดในจ านวนทแตกต่างกันในแต่ละกรณก็ตาม
็
ี
ี
ี่
อะดาละฮ์มความเกี่ยวข้องโดยตรงกับอะกีดะฮ์และอมาน โองการอัลกุรอานทเกี่ยวกับการเปนพยาน
ู
ี
ิ
ั
ี
ิ
ิ
ื่
ี
ในเรองหน้สนน้เปนเพียงการช้แนะเจ้าหน้เพื่อสามารถปกปกรกษาสทธในทรพย์สนไม่ให้สญหาย
ิ
ั
ี
็
ั
ี
ี
ี
ี
อกทั้งช้แนะอกว่าหากไม่มบรษทสามารถเปนพยานได้ก็สามารถน าบรษหนงคนกับอกสตรสองคน
็
ุ
ุ
ุ
ี
ี่
่
ึ
ุ
ี
เปนพยานได้ สตรทน ามาเปนพยานนั้นอาจเปนชาวบ้านธรรมดาทไม่มความรหรอไม่ม ี
ี่
ี
้
ี
ื
็
็
ี่
ู
็
็
ี่
ิ
ื
์
ประสบการณในเรองการเงนเลย หรออาจเปนไปได้ทนางอยู่ในสภาพบกพร่องทางเพศสภาวะ เช่น
ื่

1
ตัวบทอัลกุรอานมดังน้ ี
ี
 




 











                       




                         



 














 




 









                      
  

…                    





















2
ความหมายในทางฟกฮ์หมายถง ผู้ทห่างไกลจากบาปใหญ่และไม่หมกม่นอยู่กับการกระท าบาปเล็ก ตลอดจน
ึ
ิ
ี่
ุ
ห่างไกลจากพฤตกรรมอันน่ารงเกียจต่างๆ (Al-Jurjani, 1983: 152) ซงใกล้เคียงความหมายในภาษาไทย คอคนท ี่
ึ
่
ั
ิ
ื
็
ั
ุ
ื่
ี
ื
เทยงธรรม มคณธรรม โดยทั่วไปการจะรบเปนพยานได้นั้นมเงอนไข 5 ประการ คอ 1) อะดาละฮ์ 2) บรรลุศาสน
ี่
ี
ิ
็
ภาวะ 3) เปนมุสลม 4) ไม่เปนทาส 5) ปราศจากข้อกล่าวหา ( ) (Ibn Rushd, 1995: 4/2295)
็
3 อัลกุรอานได้กล่าวไว้ว่า …    ความว่า “และจงให้มพยานสองคนเปนผู้เทยงธรรมในหม่ ู
ี
็
ี่










ิ
พวกเจ้า” (Al-Talaq 65: 2) ค าว่า “ในหม่พวกเจ้า” ในโองการน้รวมถงทั้งชายและหญง
ึ
ู
ี