Page 385 - 022
P. 385
385
ุ
็
ื
ื
ี
ุ
ก าลังมประจ าเดอน ตั้งครรภ์หรอเพิ่งคลอดบตร เปนต้น ด้วยเหตน้จงต้องระมัดระวังในการน าสตร ี
ึ
ี
ื่
ี่
็
มาเปนพยานในเรองทไม่ควรทจะน านางมาเกี่ยวข้อง
ี่
ั
ื่
ี
ื่
็
ี่
ี
ส าหรบการเปนพยานของสตรในเรองอนๆ นั้นมหลายระดับทแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การ
ี
ื่
ี
เปนพยานทเปนฟรฎกิฟายะฮ์ ซงมอะดาละฮ์เปนเงอนไข หากนางมเงอนไขครบสมบูรณก็สามารถ
ี่
ื่
็
็
ั
่
็
ึ
์
ู
็
ี
ื
ื่
เปนพยานเหมอนกับบรษ เช่นในกรณการเปนพยานในเรองพินัยกรรม เปนต้น เฉกเช่นเดยวกันกับ
ี
็
ุ
ุ
็
ั
่
ี
ี่
็
ึ
็
ี
ี่
็
การเปนพยานทฟรฎอนทนางจ าเปนจะต้องท า เช่นในกรณการเปนพยานในเรองการฆาตกรรม ซงม ี
ื่
ู
ึ
ุ
็
็
์
ี
็
้
ั
ี
นางคนเดยวรเหนในเหตการณ การเปนพยานของนางจงมความจ าเปนและเปนฟรฎอน เพราะการ
็
ู
ี
ู
เปนพยานของนางเกิดข้นโดยบังเอญ หากไม่เชอมั่นในความเปนพยานของนางท าให้ฆาตกรรอด
็
ึ
ื่
็
ิ
พ้นจากการถกลงโทษ (‘Izzat, 1995: 103)
ู
ี
แต่อย่างไรก็ตามประเด็นการเปนพยานของสตรนั้น บรรดาอละมาอ์และนักวิชาการทั้งอดต
ี
ุ
็
ิ
ึ
ิ
และปจจบันมความเหนทแตกต่างกันอย่างหลากหลายมาก และส่วนใหญ่ปฏเสธอย่างส้นเชงถงการ
1
ิ
ั
ี่
ี
ุ
็
เปนพยานของสตรในเรองทเกี่ยวกับบทลงโทษหดด ( ) และกิศอศ ( ) แม้กระทั่งการเปน
ู
ี่
ื่
ี
็
ุ
็
ี่
้
็
ื
ึ
่
์
ู
ื
ื่
พยานในเรองทเกี่ยวกับการแต่งงาน การหย่าราง การพิสจนเช้อสาย หรอการเปนผู้ปกครองซง
ุ
็
ุ
ี่
ี
อละมาอ์ส่วนใหญ่ก็ไม่อนญาตมเพียงแต่อละมาอ์ชาวกูฟะฮ์เท่านั้นทอนญาตให้พวกนางเปนพยาน
ุ
ุ
ในเรองดังกล่าวน้ได้ (Ibn Hajar, 2005a: 6/524) กล่มทปฏเสธการเปนพยานของสตรนั้นโดยสรป
ี
ุ
ุ
ื่
ี่
ิ
ี
็
้
ั
ี่
ี
ั
ี
แล้วมักจะให้เหตผลถงความบกพร่องทางปญญาของสตรทั้งทมาจากปจจัยโครงสรางทางชวภาพท ี่
ุ
ึ
ั
ู
้
ื
ส่งผลท าให้ง่ายต่อการหลงลมและอ่อนไหวง่าย หรอปจจัยทางสังคมท าให้นางขาดความรและ
ื
์
ประสบการณเพราะยุ่งอยู่เฉพาะกับกิจการภายในบ้านเท่านั้น (Al-‘Aid, 2006: 366-367)
ิ
่
ึ
ุ
ุ
ื่
ุ
อบน ก็อยยิมได้ให้ข้อสังเกตในเรองน้อย่างน่าสนใจว่า “โดยพื้นฐานแล้วบรษหนงคนไม่
ี
ี
ื
ุ
ุ
ื่
เท่ากับสตรสองคน สตรก็มความอะดาละฮ์เหมอนกับบรษทั้งในเรองความซอสัตย์ การมอะมานะฮ์
ื่
ี
ี
ี
ึ
และความเคร่งครดในศาสนา เพียงแต่กังวลว่านางอาจหลงลมจงได้เสรมด้วยอกคนหนงในเพศ
่
ื
ิ
ั
ี
ึ
ี
ุ
เดยวกันกับนาง การกระท าเช่นน้ย่อมมความเข้มแข็งน่าเชอถอมากกว่าบรษคนเดยว และไม่ต้อง
ี
ี
ื่
ี
ุ
ื
สงสัยเลยว่าความเปนพยานของเศาะหาบยะฮ์อย่างนางอมม์ อัลดัรดาอ์ และอมม์ อะฎยะฮ์ย่อมม ี
ุ
ี
ี
ุ
็
ื่
ุ
ความน่าเชอถอมากกว่าการเปนพยานของบรษคนเดยวเสยอก...” (Ibn Qayyim Al-Jawziyah 1428:
ี
ุ
ื
ี
็
ี
430)
ุ
ี
็
็
แม้ว่าบรรดาอละมาอ์มความเหนทแตกต่างกันอย่างหลากหลายในการเปนพยานของสตร ี
ี่
แต่ไม่มใครปฏเสธการรายงานหะดษของสตร ดังทอัลเชากานย์ได้กล่าวไว้ว่า “ไม่มค าพูดของ
ิ
ี
ี
ี
ี
ี่
ี
1
ิ
ิ
ู
ดเพ่มเตมใน Ibn Hazm 1351: 395-403; Ibn Rushd, 1995: 4/2301-2302; Abu Shuqqah, 1999: 1/278-280; Al-
‘Aid, 2006: 363-373; Al-Siba‘i , 1999, 27-29.