Page 208 - 022
P. 208
208
1
ี
ุ
ุ
ี
อกว่า อบน อมัร ไม่เคยผ่านเข้าออกจากประตนั้นเลยตลอดชวิตของท่าน (Abu Dawud: 462) มี
ู
ิ
ั
ุ
ิ
ุ
ิ
รายงานจากบะกีรรบรายงานจากนาฟอ์กล่าวว่า อมัร อบน อัลค็อฏฏอบเคยสั่งห้ามไม่ให้ผ่านเข้า-
ี
ั
ี
2
ออกประตูส าหรบสตร (Abu Dawud: 464) นอกจากน้ท่านนบ ยังห่วงใยต่อสภาพของเศาะหาบี
ี
ี่
ยาตทมาร่วมละหมาดในมัสญด ในขณะทก าลังละหมาดหากได้ยินเสยงเดกรองไห้ท่านนบ จะ
ิ
ี
้
ี
ี่
็
ละหมาดให้สั้นลง โดยการอ่านสเราะฮ์สั้นๆ แม้ว่าเดมทตั้งใจทจะละหมาดยาวก็ตาม ดังมรายงาน
ี
ี
ี่
ู
ิ
ั
ุ
ี
ิ
ิ
้
ิ
่
จาก อนัส อบน มาลก เล่าว่า ท่านนบ กล่าวว่า “ แทจรงฉนก าลังสการละหมาดและฉนตั้งใจจะ
ั
ู
้
ึ
ี
์
ู
ั
ี
้
ึ
ี่
ั
้
ิ
อานสเราะฮทยาว แตฉนไดยนเสยงเด็กรองไห ฉนจงอานสนลง ทงน้ ฉนรดถงความกังวลของ
ั
ั้
ู
่
่
ี
ั้
้
่
3
มารดาจากการรองไหของลูก” (Bukhari: 709) จากหะดษบทน้อบน หะญัรกล่าวว่า เปนหลักฐาน
้
็
ิ
้
ุ
ี
ี
ิ
แสดงให้เหนว่าอนญาตให้น าเดกเข้าไปในมัสญดได้ และอนญาตให้สตรไปละหมาดญะมาอะฮ์กับ
็
ี
ุ
็
ุ
ิ
ผู้ชายในมัสญดได้ (Ibn Hajar, 2005a: 2/597)
ั
ิ
ิ
ุ
ุ
ุ
่
ึ
ี
ี
นอกจากน้มรายงานจากนางอัลรบัยยิอ์ บนต์ มเอาวิซ อบน อัฟรออ์ กล่าวว่า คร้งหนงในเช้า
ฺ
์
ี่
ู
ื
ี่
ุ
ุ
ื
ั
ิ
วันอาชรออ์ (คอวันท 10 ของเดอนท 1 จันทรคตอาหรบ) ท่านรสลลลอฮ ได้ส่งสาสนไปยัง
ี่
ี
้
์
หมู่บ้านของชาวอันศอรซงอยู่รอบๆ นครมะดนะฮ์ โดยสั่งว่า “ผูใดทถอศลอดในเชาวันน้ ก็จงถอ
ื
ี
ึ
ี
้
ื
่
้
้
้
ี
ี
ื
้
่
ี
ี
ตอไปใหเต็มวัน และผูใดไดทานอาหารแลวในเชาวันน้ ก็จงถอศลอดในเวลาทเหลออกของวันน้”
ี่
้
ื
ุ
ื
็
ี
นางอัลรบัยยิอ์กล่าวอกว่า หลังจากนั้นพวกเราได้ถอศลอดกัน และได้ใช้ให้เดกเล็กๆ ของพวกเราถอ
ื
ี
ศลอดด้วย และพวกเราพากันไปมัสญดด้วยกัน พวกเราได้ท าของเล่นทท าจากขนสัตว์ซงแต้มด้วย
ี่
ี
่
ึ
ิ
ื่
ี
ิ
็
หลากสให้แก่เดกๆ เมอเด็กๆ รองไห้เพราะความหว พวกเราก็จะให้ของเล่นนั้นเพื่อให้เด็กๆ เพลน
ิ
้
ี
ื
็
จนถอศลอดได้เต็มวัน (Muslim: 1136) จากหะดษบทน้นอกจากแสดงให้เหนว่าบรรดาเศาะหาบยาต
ี
ี
ี
ึ
ู
ิ
ี
็
ู
ื
ได้ฝกลกๆ ในการถอศลอดแล้ว ยังแสดงให้เหนว่าพวกนางได้พาลกๆ ไปยังมัสญดเพื่อละหมาดญะ
มาอะฮ์ในเวลากลางวันอกด้วย
ี
ี
4
ุ
ิ
ิ
ิ
์
ิ
ี
์
ในศอฮหมสลมมรายงานจากนางฟาฏมะฮ์ บนต์ ก็อยสเล่าว่า “...หลังจากดิฉันหมดอดดะฮ์
่
้
ดิฉันได้ยินเสยงรองเรยกจากผู้ปาวประกาศของท่านรสลลลอฮ ซงเขาประกาศว่า “
ฺ
ู
่
ี
ึ
ุ
ี
ึ
ิ
ิ
ิ
” (เชญมาร่วมละหมาดกันเถด) ดิฉันจงออกไปยังมัสญด และได้ละหมาดร่วมกับท่านรส ู
ุ
่
ึ
ุ
ุ
ุ
ุ
ฺ
ี
ลลลอฮ ดิฉันละหมาดอยู่ในแถวหน้าสดของแถวสตร ซงต่อจากท้ายสดของแถวบรษ...”
1
ี
ี่
ิ
์
ี
ี
็
อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษทศอฮห (Al-Albani, 1998b: 1/136)
2 อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษทฎออฟ (Al-Albani, 1998a: 42)
ี
ี
ิ
็
ี่
ี
3
ี
ี
ี
่
ึ
ี
หะดษในความหมายเดยวกันน้มหลายบทและหลายสายรายงาน ในศอฮหบคอรย์ได้แยกเปนหัวข้อหนงในบทท ี่
ี
ุ
์
ี
็
ี
10 ส่วนท 65 ว่าด้วยผู้ทท าการละหมาดให้สั้นลงในขณะทมเสยงเด็กรองไห้
ี
ี่
้
ี่
ี่
4 หมายถงภาวะการรอคอยของสตรทสามารถจะแต่งงานใหม่ได้หลังจากสามหย่าหรอสามเสยชวิต
ี
ี่
ี
ี
ี
ึ
ี
ื