Page 48 - 0051
P. 48

แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก: บทเรียนจากหลักสูตรพัฒนานวัตกรรมการสอนของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด  41





                            บทบาทของผู้้�สอนในการทาความเข�าใจัอารมณ์์และความร�สก
                                                                                                 ึ
                                                                                               ้
                                                           ำ
                                                                          ั
                                                                       ำ
                                      ของผู้้�เรียนในระยะนีมีความสาคญอย่างมาก
                                                             �
                                                                         ุ
                                                                   ้
                                                    ต่อการเรียนร�เชิิงรก
                                                     ่
                          ผู้้�สอนไม่ควรให�ความชิ่วยเหลอผู้้�เรียนเร็วเกนไปจันกระท�งผู้้�เรียน
                                                            ่
                                                                                           ั
                                                                             ิ
                                                                           ้
                             ไม่มีโอกาสเผู้ชิิญความทาทายและเรียนร�จัากความผู้ิดพลาด
                                                         �
                           ในขณ์ะเดยวกน ผู้้�สอนไม่ควรให�ความชิ่วยเหลอผู้้�เรียนชิ�าเกนไป
                                                                                               ิ
                                      ี
                                           ั
                                                                                ่
                                                             �
                                                                              ิ
                                                          ึ
                                                        ้
                                             ั
                                   จันกระท�งผู้้�เรียนร�สกทอถอยและละท�งการเรียนร�           ้
                                                                                                   ุ้
                                                                                             ่
                                                  ั
                      จากต์าราง 2 จะเห็นว่่ากิจกรรม้ในข�นส่ำรว่จจะใชิ้เว่ลาเพียง 8 นาที่ี แต์กิจกรรม้ด้ังกล่าว่ชิว่ยกระต์นการเรียนร  ้ ้
                                                                              ่
                                                                 ื
                                                                                       ิ
                           ั
                  ในแต์่ละคืร�งให้ผู้เรียนส่นุกและประที่ับใจ รว่ม้ถึึงชิว่ยเชิ�อม้โยงไปส่้่คืำถึาม้ส่ะที่้อนคืด้และเน�อหาของบที่เรียน
                                ้
                                                            ่
                                                                                              ื
                                ้
                                                                                               ึ
                          ั
                                                            ้
                                                      ้
                                                            ้
                  นอกจากน�น การออกแบบกิจกรรม้การเรียนร้โด้ยให้ผู้เรียนที่ด้ลองต์าม้โคืรงการ EMOTO Peace ซึ้�งถึือเป็นกิจกรรม้
                                  ้
                                                                                           ่
                                                                                      ั
                                                      �
                                              ้
                                       ิ
                                                                                     ่
                  ขนส่ำรว่จที่ผู้เรยนต์องรบผู้ด้ชิอบด้ว่ยต์นเองที่ีบานต์ลอด้ระยะเว่ลา 2 ส่ปด้าห คืว่บคืกบการรว่ม้กิจกรรม้การเรยนร  ้ ้
                                                        ้
                                     ั
                                                                                     ้
                           ี
                                                                               ์
                            ้
                           �
                   ั
                                                                          ั
                   �
                                                                                                         ี
                              ี
                            ้
                                         ้
                                         ้
                                                                          ้
                     �
                     ั
                                   ่
                  ในชิว่โม้งถึด้ไป จะชิว่ยให้ผู้เรียนได้ส่ำรว่จและปฏิบต์ิการที่ด้ลองด้ว่ยต์นเอง รว่ม้ถึึงฝึึกส่ังเกต์ผู้ลการที่ด้ลอง
                                                             ั
                                                            ิ
                                                ้
                           ั
                                                    ี
                                                      ิ
                  ก่อนที่�ผู้้้ส่อนจะอธิิบายเนื�อหาในชิั�นเรียนที่�เกด้ขึ�นต์าม้ปกต์ิ
                       ี
                                                      ื
                                    ้
                              ็
                                                            ิ
                                    ้
                      อย่างไรกต์าม้ ผู้เรียนบางรายอาจจะชิ�นชิอบว่ธิีการส่อนที่ี�เน้นการบรรยาย (lecture-based teaching
                                                     ้
                                                              ้
                  methods) ม้ากกว่่าแนว่ที่างการส่อนที่�เน้นผู้เรียนเป็นศนย์กลาง (learner-centered teaching approaches) เชิ่น
                                                     ้
                                                 ี
                                                                                           ้
                  ผู้ลการศึกษาของ Yadav et al. (2011) ที่ี�ได้้เปรียบเที่ียบผู้ลที่ี�เกิด้จากการจัด้การเรียนร้โด้ยใชิปญ่หาเป็นฐาน
                                                                                                  ั
                                                                                                ้
                                                                                                          ึ
                                                                       ิ
                                                                                              ิ
                  (problem-based learning) และการส่อนแบบบรรยาย ในรายว่ชิาว่ิศว่กรรม้ไฟฟ้าของม้หาว่ที่ยาลัยแห่งหน�งใน
                                                         ้
                                                             ้
                                                               ั
                                                                                ้
                                                                                ้
                  ประเที่ศส่หรัฐอเม้ริกา ซึ้�งพบว่่าการจัด้การเรียนร้โด้ยใชิปญ่หาเป็นฐานชิ่ว่ยให้ผู้เรียนเกิด้การเรียนร้้ม้ากกว่่าการส่อน
                                     ึ
                                         ้
                  แบบบรรยายถึึงส่องเที่่า แต์่ผู้เรียนใหคืว่าม้เห็นว่่าชิอบการส่อนแบบบรรยายม้ากกว่่าและเข้าใจว่่าการฟังบรรยาย
                                         ้
                                                ้
                                                                                            ่
                                                                   ้
                                    ้
                                    ้
                                                                   ้
                                                                                                      ็
                                                                ี
                                                                                ็
                        ้
                                                                                              ้
                   ่
                                ี
                  ชิว่ยใหเกด้การเรยนรได้ม้ากกว่าการรว่ม้กจกรรม้การเรยนรโด้ยใชิปญ่หาเปนฐาน ถึงแม้ว่าผู้้เรยนเองกยอม้รบ
                                                                                                ี
                                                                                           ้
                                            ่
                                                 ่
                                                     ิ
                                                                          ั
                                                                                       ึ
                                                                                                           ั
                          ิ
                                                                        ้
                                      ้
                                                                                ์
                                                                              ุ
                  ว่่าการเรียนรโด้ยใชิปญ่หาเป็นฐานชิว่ยพัฒนาคืว่าม้ส่าม้ารถึในการประยกต์ใชิคืว่าม้รในชิว่ต์จรงและชิว่ยพฒนา
                                                                                                     ่
                                                                                                         ั
                                  ้
                                                                                       ้
                                                                                       ้
                                                                                           ี
                                   ั
                                                                                            ิ
                             ้
                                                                                  ้
                                                                                               ิ
                             ้
                                                ่
                                                                                                         ุ
                                                                              ั
                                                                                                            ่
                  ที่ักษะการแกปญ่หาได้ม้ากกว่่าการเรียนแบบบรรยายเพียงอย่างเด้ียว่ ด้ังนน Yadav et al. (2011) จงส่รปว่า
                                    ้
                                                                              �
                             ้
                                                                                                      ึ
                              ั
                  การจด้การเรียนร้โด้ยใชิปญ่หาเป็นฐานเพียงอย่างเด้ียว่ไม้่ส่าม้ารถึชิ่ว่ยให้ผู้เรียนเข้าใจเน�อหาได้้อย่างถึ่องแที่้ ผู้้ส่อน
                                                                                        ื
                                                                             ้
                                                                             ้
                                                                                                         ้
                                ้
                      ั
                                     ้
                                      ั
                                                                                                         ื
                                                                                               ื
                                                                                    ิ
                                                                      ้
                                                                      ้
                                ้
                                ้
                       ั
                                     ้
                                       ั
                                                       ้
                  คืว่รจด้การเรียนรโด้ยใชิปญ่หาเป็นฐานคืว่บคื่กับการอธิิบายให้ผู้เรียนเข้าใจคืว่าม้คืด้รว่บยอด้เบ�องต์้นของเน�อหา
                                                              ้
                                                              ้
                  รายว่ชิา ด้ว่ยเหต์ุด้ังกล่าว่ การออกแบบการเรียนรเชิิงรุกในแต์่ละคืร�งจึงคืว่รคืรอบคืลุม้กิจกรรม้การเรียนร  ้ ้
                       ิ
                           ้
                                                                             ั
                  ที่ั�ง 3 ประเภที่ และคืว่รเรียงลำด้ับกิจกรรม้โด้ยให้ผู้้เรียนได้้ม้ีโอกาส่ส่ำรว่จและที่ด้ลอง เพื�อให้ผู้้เรียนได้้ม้ีโอกาส่
                                                                                                ้
                                                            ้
                                   ิ
                                        ั
                                      ้
                                                                           ่
                                                                          ้
                       ิ
                                                                                              ่
                  ลองผู้ด้ลองถึ้กและคืด้แกปญ่หาด้้ว่ยต์นเอง ก่อนที่ี�จะส่รุปองคืคืว่าม้ร้รว่ม้กับผู้้้ส่อนและเพื�อนรว่ม้ชิั�นเรียน
                                                                    ์
                      ความผู้ิดพลาดทเกดประโยชิน์ (Productive Failure)
                                     �
                                     ี
                                       ิ
                      คืว่าม้ลม้เหลว่หรือคืว่าม้ผู้ิด้พลาด้อาจจะเกิด้ข�นระหว่่างการรว่ม้กิจกรรม้การเรียนร้เชิิงรุก โด้ยเฉพาะอยางยง
                                                          ึ
                                                                                                            �
                                                                                                            ิ
                            ้
                                                                                        ้
                                                                      ่
                                                                                                         ่
                                                                         ิ
                                  ้
                                         ้
                                   ี
                                                                                                         ั
                  กิจกรรม้การเรียนร้ที่�ฝึึกให้ผู้เรียนม้ีคืว่าม้พยายาม้และกล้าที่ี�จะเผู้ชิญ่กับส่ถึานการณ์์ใหม้่ ๆ เชิ่น การใชิปญ่หา
                                                                                                       ้
                                         ้
                  เป็นฐาน การใชิ้โคืรงงานเป็นฐาน การส่ำรว่จด้ว่ยต์นเอง การที่ด้ลอง การส่ำรว่จเชิิงพ�นที่� เป็นต์้น ซึ้�ง Kapur (2008)
                                                                                                ึ
                                                       ้
                                                                                     ื
                                                                                        ี
                                ์
                                                               ี
                                                                                         ิ
                  เรียกส่ถึานการณ์ด้ังกล่าว่ว่่า ‘productive failure’ ในที่น�ผู้เขียนใชิ้ภาษาไที่ยว่่า ‘คืว่าม้ผู้ด้พลาด้ที่�เกด้ประโยชิน์’
                                                                                                 ี
                                                                  ้
                                                                 ี
                                                                                                   ิ
                                                                  ้
                                                               �
                                                                                                         ้
                                                                                                         ้
                                                                                               ิ
                  การใชิคืำด้ังกล่าว่อาจจะยังไม้่แพร่หลายในบริบที่การศึกษาไที่ย Kapur (2008) กล่าว่ว่่า การเปด้โอกาส่ให้ผู้เรียน
                       ้
                                                                                            ั
                                  ี
                                                         ั
                                                       ่
                           ้
                  ได้้ลงม้ือแกปญ่หาที่ซึ้ับซึ้้อนและม้ีโคืรงส่ร้างไม้ชิด้เจน (ill-structured) นั�นคืือส่ถึานการณ์์ปญ่หาที่ี�อธิิบายข้อม้้ล
                                  �
                             ั
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53