Page 57 - 001
P. 57

46


                   หล่อหลอมตามวิถีทางที่ได้กำหนดไว้ในวรรณะนั้น เช่น การเลี้ยงดู การศึกษา การประกอบ

                   อาชีพ การสมรส และการดำเนินชีวิตในสังคม แม้ในทางทฤษฎีจะมีข้อกำหนดให้ประกอบอาชีพ
                   ตามแต่ละวรรณะ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในความเป็นจริง อาจมีการประกอบอาชีพข้าม
                   วรรณะกันได้ ยกเว้นอาชีพบางอย่างที่สงวนไว้ให้แก่บางวรรณะเท่านั้น ในสมัยนี้ได้มีการแบ่ง

                   วรรณะในสังคมออกเป็น 4 วรรณะด้วยกัน ดังนี้
                                  • วรรณะพราหมณ์ เป็นวรรณะที่มีสถานะสูงที่สุดในสังคม กลุ่มคนพวกนี้ได้แก่

                   นักบวช ปุโรหิต นักปราชญ์ อาจารย์ และพราหมณ์ กลุ่มคนเหล่านี้เป็นพวกอุทิศตนเองให้กับ
                                                                            ิ
                   ศาสนา เป็นผู้สงวนรักษา เป็นผู้สืบศาสนา และเป็นผู้ประกอบพธีกรรมทางศาสนา พราหมณ์
                   หรือนักบวชซึ่งมีลักษณะเป็นผู้ทรงศีลจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

                                             ั
                                 • วรรณะกษตริย์ หน้าที่ของวรรณะกษัตริย์ คือ การป้องกันบ้านเมืองในยาม
                   สงคราม ตลอดจนปกครองบ้านเมืองให้มีความร่มเย็นเป็นสุขในยามสงบ คนกลุ่มนี้ได้แก่ กษัตริย์

                   เจ้าหน้าที่ราชการและกลุ่มนักรบ
                                 • วรรณะแพศย์ เป็นกลุ่มชนชั้นกลางในสังคม ทำหน้าที่เกี่ยวกับการค้าขาย
                   การทำเกษตรกรรม เลี้ยงดูปศุสัตว์ และเป็นช่างฝีมือ แพศย์ถือเป็นผู้ที่กุมเศรษฐกิจของประเทศ

                   เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอาหารและหารายได้ให้แก่สังคม นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเป็นผู้ที่คอยจุนเจือ
                   วรรณะพราหมณ์และกษัตริย์อีกด้วย เพราะต้องทำบุญแก่พราหมณ์และเสียภาษีอากรให้แก่

                   กษัตริย์
                                 • วรรณะศูทร ถือเป็นชนชั้นต่ำสุดของสังคม ไม่มีการยอมรับจากสังคม ไม่ได้รับ
                   อนุญาตให้เข้าเรียนหนังสือ พวกศูทรไม่มีสิทธิ์ในการศึกษาคัมภีร์พระเวท และมีสิทธิในการ

                   แต่งงานกันภายในวรรณะของตนเท่านั้น ศูทรต้องรับใช้ชนชั้นวรรณะเบื้องบนทั้งสาม อย่างไรก็ดี
                   หากไม่มีศูทรสังคมจะเจริญก้าวหน้าไปได้ยาก เพราะศูทรเปรียบเสมือนแรงงานหรือกรรมกรใน

                   ปัจจุบัน

                          นอกจากวรรณะหลัก 4 วรรณะข้างต้นแล้ว สังคมอินเดียยังมีการแบ่งชนชั้นย่อยๆลงไป

                   อีก คัมภีร์มนูศาสตร์ได้กล่าวถึงการแต่งงานในสังคมฮินดูไว้ 3 แบบดังต่อไปนี้
                          1.  การแต่งงานที่สามีและภรรยาอยู่ในวรรณะเดียวกัน

                          2.  การแต่งงานที่สามีอยู่ในวรรณะสูงกว่าภรรยา
                          3.  การแต่งงานที่ภรรยาอยู่ในวรรณะสูงกว่าสามี
                          หลักการแต่งงาน 3 แบบเหล่านี้ได้มีการกำหนดวรรณะของผู้ที่เกิดมาอย่างหลากหลาย

                   แต่วรรณะที่น่าสงสารและเห็นใจที่สุดได้แก่ “จัณฑาล” ซึ่งเกิดจากบิดาอยู่ในวรรณะศูทร ส่วน
                   มารดาอยู่ในวรรณะพราหมณ์ พวกจัณฑาลเป็นผู้ที่ถูกเหยียดหยามมากที่สุดในสังคมฮินดู แม้แต่

                   เงาของคนกลุ่มนี้ยังถือว่าเป็นของสกปรกและมีมลทิน ดังนั้น จึงมักจะให้ทำงานที่ไม่บริสุทธิ์
                   สะอาด เช่น อาชีพขอทาน ตักอุจจาระ เอาซากศพไปทิ้ง หรือทำงานเย็บหนัง เป็นต้น พวก
                   จัณฑาลจะถูกจัดให้อยู่นอกวรรณะ และมักมีเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าแตกต่างจากวรรณะ

                   อื่นๆ เวลาจะเดินทางไปไหนมาไหน จะต้องถือไม้เคาะไปตามทางเพื่อวรรณะอื่นจะได้หลบหลีก
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62