Page 52 - 001
P. 52
41
การตอบแทนในเรื่องนี้ ประชาชนจึงให้ความเคารพและให้เครื่องบรรณาการตามความสมัครใจ
แก่กษัตริย์ กษัตริย์ไม่มีอำนาจในการเรียกส่วยอากรหรือมีสิทธิ์เหนือที่ดินใดๆทั้งสิ้น สถานภาพ
ของกษัตริย์ในสมัยนี้ยังไม่เป็นสมมติเทพ ยังคงมีความผูกพันใกล้ชิดกับลูกเผ่า ในขณะที่บทบาท
ทางศาสนามีน้อยมาก เนื่องจากมีพระหรือนักบวชทำหน้าที่นี้เป็นส่วนใหญ่ ภายหลังสถานภาพ
ของกษัตริย์เปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีแนวคิดที่จะยกย่องกษัตริย์เป็นสมมติเทพ จึงเกิดพิธีกรรมต่างๆ
เพื่อทำให้ตำแหน่งกษัตริย์มีความศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงเทพเจ้า โดยมีพระเป็นผู้ประกอบพิธี เพราะเชื่อ
ั
กันว่าพระเป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์และพระผู้เป็นเจ้า ความสัมพนธ์ระหว่างกษัตริย์และพระ
6
จึงใกล้ชิดกันมากขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับประชาชนค่อยๆห่างออกไป
1. อาชีพและเศรษฐกิจ พวกอารยันแต่เดิมเป็นพวกเร่ร่อนกึ่งเลี้ยงสัตว์ ระบบ
เศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับการทำปศุสัตว์ โดยเฉพาะวัวและแกะ วัวถือว่าเป็นสมบัติอันมีค่า พวกอิน
โด-อารยันใช้วัวเป็นเครื่องวัดความแตกต่างทางฐานะ ใครมีวัวมากแสดงว่าฐานะดี วัวตัวเมียถือ
ว่าเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ประชาชนจะไม่ฆ่าวัวตัวเมีย อีกทั้งยังใช้เป็นสื่อกลางในการ
แลกเปลี่ยนด้วย สัตว์เลี้ยงที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งคือ ม้า เพื่อใช้ในการทำศึกสงคราม
เมื่ออารยันได้เข้ามาตั้งรกรากในอินเดียเรียบร้อยแล้ว ลักษณะทางเศรษฐกิจของพวกเขา
ก็เปลี่ยนไป จากที่เน้นการทำปศุสัตว์มาเป็นการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก ชาวอารยันรู้จักการ
ชลประทานทดน้ำ ปลูกข้าวบาเล่ย์ ข้าวสาลี และพืชจำพวกถั่วต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการล่าสัตว์
เพื่อนำมาประกอบอาหารอีกด้วย
เมื่ออยู่ติดที่กันมากขึ้นประกอบกับการเปลี่ยนวิถีชีวิตตนเองมาเป็นเกษตรกร ชาว
อารยันจึงมีเวลาว่างมากขึ้น ก่อให้เกิดการประกอบอาชีพอื่นตามความถนัดในเวลาต่อมา เป็น
ต้นว่า ช่างทองแดง ช่างเหล็ก ช่างไม้ ช่างรองเท้า ช่างปั้นหม้อ ส่วนผู้หญิงมีการเย็บผ้า ถักเสื้อ
จากหญ้าต้นกกหรือต้นอ้อ
เมื่อการทำเกษตรกรรมประสบความสำเร็จ มีผลผลิตเกินความต้องการ การค้าขายจึง
ตามมา โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำคงคาที่ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมเพอการค้า ชุมนุมชนใหญ่ๆที่
ื่
เกิดขึ้นบนริมฝั่งแม่น้ำคงคาได้กลายเป็นตลาดการค้า ในระยะแรกๆ ดำเนินการค้ากันในท้องถิ่น
นอกจากสินค้าทางการเกษตร สินค้าที่สำคัญในยุคนี้อีกประเภทหนึ่งคือ ผ้าและสินค้าที่ทำจาก
ขนสัตว์ ดังนั้น จึงแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการทอผ้ารุ่งเรืองมาตั้งแต่ยุคพระเวทแล้ว
2. โครงสร้างทางสังคม เมื่อชาวอารยันเข้ามาในอินเดียระยะแรก ได้มีการแบ่งคนใน
สังคมออกเป็น 3 กลุ่ม คือ นักรบ นักบวช และสามัญชน ยังไม่มีระบบวรรณะ รวมถึงยังไม่มี
กฎเกณฑควบคุมการแต่งงานระหว่างชนชั้น และกฎเกณฑเกี่ยวกับการประกอบอาชีพตามการ
์
์
สืบสกุล ดังนั้น การแบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่มในระยะแรกๆ จึงเป็นการจัดกลุ่มชนทางสังคมและ
เศรษฐกิจอย่างง่ายๆ
7
6 ศรีสุพร ช่วงสกุล. (2543). อารยธรรมยุคใหม่ : Modern Civilization. สงขลา : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
หาดใหญ่, หน้า 27.
์
7 ดนัย ไชยโยธา. (2527). ประวัติศาสตรเอเชียใต้ยุคโบราณ. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, หน้า 51.