Page 150 - 001
P. 150
139
ประภากร วรรธนะ) ถูกเทวะ คุปตะ (Deva Gupta) สังหารในการรบ ทำให้ทั้งสองอาณาจักร
คือ เมาขรีสและธเนศวร รวมกันเข้าเป็นอาณาจักรเดียวภายใต้การนำของหรรษะ วรรธนะ
(Harsha Vardhana) โอรสองค์ที่สองของประภากร วรรธนะ
ส่วนตระกูลไมตระกะ ได้ก่อตั้งอาณาจักรของตนเองขึ้นโดยมีเมืองหลวงอยู่ที่วัลลภี
ราชวงศ์นี้มีการปกครองยืนนานกว่า 300 ปี และถือเป็นอาณาจักรที่มีความแข็งแกร่งที่สุด
ท่ามกลางอาณาจักรน้อยใหญ่ที่สถาปนาขึ้นมาหลังการล่มสลายของจักรวรรดิคุปตะ เมืองวัลลภ ี
ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการศึกษาในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี อาณาจักรนี้
โค่นล้มลงด้วยฝีมือของพวกอาหรับในราวพุทธศตวรรษที่ 14 หรือคริสต์ศตวรรษที่ 8
ในบรรดาอาณาจักรต่างๆที่ก่อตั้งขึ้น สายตระกูลปุษยภูติหรือราชวงศ์วรรธนะแห่ง
ธเนศวรมีบทบาทมากที่สุดในประวัติศาสตร์อินเดียในช่วงเวลานี้ หลังการสิ้นพระชนม์ของ
ประภากร วรรธนะ พระเจ้าหรรษะ วรรธนะได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา โดยได้รวมอาณาจักรเมา
ขรีสและธเนศวรเป็นหนึ่งเดียว หรรษะ วรรธนะถือเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในราชวงศ์วรรธนะ
พระเจ้าหรรษะ วรรธนะ (พ.ศ. 1149- 1190 ; ค.ศ. 606-647)
หรรษะ วรรธนะได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดียภาคเหนือใน
ยุคกลางช่วงแรกเริ่ม เรื่องราวของพระองค์ได้รับการศึกษาผ่านเอกสารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะ
เป็นจารึกนาลันทา(Nalanda) จารึกภังสเขระ (Banskhera) งานเขียนเชิดชูเกียรติประวัติเรื่อง
หรรษะ จริต (Harsha Charita) โดยพนาภัตตะ (Banabhatta) และบันทึกของหลวงจีนเหี้ยนซัง
(Hiuen Tsang) ทำให้สามารถสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับหรรษะ วรรธนะในด้านต่างๆได้ดังต่อไปนี้
• การขยายดินแดน การขยายดินแดนของหรรษะ วรรธนะเริ่มขึ้นในช่วง 6 ปีแรก
หลังจากที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ อย่างไรก็ดี พระองค์ก็ไม่สามารถรวบรวมดินแดนของอินเดีย
ื้
เหนือไว้ได้ทั้งหมด พนที่ทางตะวันตกยังเป็นของตระกูลคุรชระและกษัตริย์แห่งคุชราต
(Gujarat) ซึ่งได้ผูกสัมพันธ์กับหรรษะ วรรธนะด้วยการที่กษัตริย์คุชราตแต่งงานกับพระธิดาของ
พระองค์ นักวิชาการบางท่านเสนอว่าการกระทำเยี่ยงนี้ถือเป็นการยอมรับอำนาจของหรรษะ
แต่อาร์.ซี.มาชุมดาร์ (R.C. Majumdar) ให้ความเห็นว่าอาณาจักรคุชราตยังคงเป็นเอกราช
2
ต่อไป นอกจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลในหรรษะ จริต มาชุมดาร์ได้สรุปว่าอาณาจักรของ
ื้
ิ
หรรษะ ครอบคลุมพนที่บริเวณปัญจาบตะวันออก อุตตระ ประเทศ พหาร เบงกอลตะวันตก
และโอริสสา ในขณะที่บริเวณปัญจาบตะวันตก แคว้นสินธุ์ ราชปุตนะ เนปาล และกัมรุปะ
(Kamrupa) ยังคงเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตนเองอยู่ ในขณะที่บริเวณที่ราบสูงเดคข่านลงไปเป็น
ของอาณาจักรจาลุกยะ ซึ่งหรรษะไม่สามารถมีชัยเหนืออาณาจักรนี้ได้เลย
อย่างไรก็ดี แม้หรรษะจะไม่สามารถรวบรวมพื้นที่ทั้งหมดไว้ได้ภายใต้การปกครองเดียว
แต่พระองค์ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจที่ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอินเดีย
ภาคเหนือไว้ได้เป็นผลสำเร็จหลังการล่มสลายของอาณาจักรคุปตะ
2 L.P. Sharma. Ancient History of India, p. 227.