Page 136 - 001
P. 136
125
รุ่งเรือง และช่วยยกระดับมาตรฐานชีวิตให้กับกลุ่มคนทำการค้า ซึ่งนักธุรกิจเหล่านี้เองที่มีส่วน
7
สำคัญที่ช่วยในเรื่องการเติบโตขึ้นของวัฒนธรรมเมือง
จากหลักฐานงานเขียนของกาลิทาส (Kalidasa) ได้กล่าวถึงวรรณะต่างๆในศาสนา
8
พราหมณ์ โดยกล่าวว่าวรรณะพราหมณ์เป็นผู้ที่อยู่ชนชั้นสูงที่สุดในสังคม กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับ
การศึกษาที่ดี ใช้ภาษาสันสกฤต เป็นภาษาพูด และมักได้รับสิทธิพิเศษอยู่เสมอ ในขณะที่วรรณะ
กษัตริย์จะเป็นวรรณะที่มีความสำคัญรองลงมา ส่วนพวกไวศยะหรือพวกแพศย์มักเป็นชนชั้น
กลางที่ประกอบอาชีพพ่อค้าหรืออยู่ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ และวรรณศูทร ซึ่งต่ำสุดทั้งในทาง
วรรณะและทางสังคม มักประกอบอาชีพประเภทการทำความสะอาด ปัดกวาดสิ่งสกปรก เช่น
การล้างท่อหรือถนน เป็นต้น อย่างไรก็ดี กาลิทาสได้กล่าวถึงวรรณะที่ห้าไว้ด้วย นั่นคือ วรรณะ
จัณฑาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่นอกเมือง จัณฑาลจัดอยู่ในวรรณะสังกร ซึ่งมารดา
มีวรรณะสูงกว่าบิดา ในกรณีของจัณฑาลนั้น บิดาจะมีวรรณะศูทร ในขณะที่มารดาจะมีวรรณะ
พราหมณ์
แม้ระบบวรรณะภายใต้การสนับสนุนของราชวงศ์คุปตะดูเหมือนมีความเข้มงวดและมี
ความพยายามที่จะจัดระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความต้องการที่จะให้
แต่ละวรรณะจำกัดอยู่แต่ในอาชีพของตนเองเท่านั้น แต่จากหลักฐานวรรณกรรมประเภทชาดก
ุ
ในพทธศาสนา กลับแสดงให้เห็นว่ามีผู้คนที่อยู่ในวรรณะพราหมณ์และวรรณะกษัตริย์ประกอบ
อาชีพอื่นๆด้วย เป็นต้นว่า แพทย์ พอค้า ประติมากร และนายพราน ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า
่
ความพยายามในการเคร่งครัดเกี่ยวกับวรรณะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ของการจำกัดอาชีพตามวรรณะ และการแต่งงานข้ามวรรณะ
ในสมัยนี้ สถานะของผู้หญิงตกต่ำลง เด็กผู้หญิงถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่ก่อนบรรลุนิติ
ภาวะ เมื่อแต่งงานแล้วก็อยู่ในความดูแลของสามี เมื่อเข้าสู่วัยชราก็อยู่ในความดูแลของบุตร
การศึกษาถูกจำกัดอยู่แค่ผู้ที่อยู่ในวรรณะสูง อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงสามารถที่จะเลือก
์
สามีของตนเอง และแต่งงานเมื่ออายุถึงเกณฑแล้วได้ การแต่งงานครั้งที่ 2 ของหญิงม่ายเป็นที่
ยอมรับกันในสังคม ผู้หญิงในฐานะภรรยาได้รับความคาดหวังจากสังคมว่าต้องเป็นผู้ที่มีความ
รับผิดชอบหน้าที่ในครอบครัวและมีคุณธรรมจริยธรรมที่สูงส่ง ซึ่งก็จะได้รับความเคารพนับถือ
เป็นสิ่งตอบแทน ภรรยาจะไม่ถูกสามีทอดทิ้งโดยเด็ดขาดเว้นแต่ว่านางจะทำผิดกฎหมาย เช่น มี
ชู้ หรือมีบุตรกับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี แม้สถานะของผู้หญิงในสมัยนี้จะด้อยกว่าผู้ชาย แต่ก็พบว่า
ผู้หญิงได้เข้าไปมีบทบาททั้งในกิจการด้านศาสนาและกิจกรรมทางด้านการเมือง บางคนทำ
หน้าที่หัวหน้าหมู่บ้าน บางคนดำรงตำแหน่งเป็นข้าหลวงมณฑล เป็นต้น นอกจากนี้ประเพณีสตี
9
ซึ่งเป็นการเผาตนเองหลังจากที่สามีเสียชีวิตปรากฏขึ้นในหมู่ชนชั้นสูงและในบางพื้นที่เท่านั้น
ในขณะที่ในเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นหากพจารณา
ิ
หลักฐานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นต้นมา ชาวอินเดียโบราณเริ่มต้นหาอาหารด้วยการหา
7 L.P. Sharma. Ancient History of India (Pre-historic Age to 1200 A.D.), p. 206.
8 กาลิทาสเป็นกวีและนักปราชญ์ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์คุปตะ สันนิษฐานว่าเขาเป็นชาวอุชเชนี โดยช่วงเวลาที่เขามีชีวิต
อยู่คือ ยุคของพระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 2 จนถึงสมัยของพระเจ้ากุมารคุปต์ที่ 1 ผลงานที่มีชื่อเสียงของกาลิทาส คือ ศกุนตลา เมฆทูต ฯลฯ
9 Ibid., p. 208.