Page 138 - 001
P. 138

127


                   ภาพจิตรกรรมและประติมากรรมแสดงให้เห็นว่า ทองและอัญมณีล้ำค่าถูกนำมาทำเป็น

                   เครื่องประดับประเภทต่างหู กำไลมือ และสร้อยคอ ในวรรณกรรมหลายๆเรื่อง เช่น ศกุนตลา
                   ยังบรรยายถึงการนำดอกไม้มาทำเป็นเครื่องประดับตกแต่งผมอีกด้วย
                       3. สภาพทางเศรษฐกิจ   สมัยคุปตะเป็นสมัยที่มีความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในทุกด้าน

                                                           ิ่
                   ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเกษตรกรรมที่ผลผลิตเพมขึ้น อุตสาหกรรมและหัตถกรรมเติบโตมากขึ้น
                   รวมไปถึงมีการขยายตัวทางด้านการค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ นำความร่ำรวยมาสู่

                                                                                           ื้
                   อาณาจักรอย่างมากมาย ความรุ่งโรจน์ทางเศรษฐกิจในสมัยคุปตะเช่นนี้ เป็นพนฐานในการ
                   นำพาความเจริญในด้านอื่นๆตามมาอีกมาก
                             • เกษตรกรรม ป่าไม้ และแร่ธาตุ ในยุคคุปตะ เกษตรกรรมยังคงเป็นอาชีพหลักของ

                   ประชาชน ที่ดินที่ใช้เพอการทำเกษตรกรรมเป็นกรรมสิทธิ์ของประชาชนมิใช่ของรัฐ แต่รัฐมี
                                       ื่
                   หน้าที่ช่วยให้การทำเกษตรกรรมมีความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การทำชลประทาน โดยรัฐจะ

                   ทุ่มเทกำลังทรัพย์เพอสร้าง ซ่อมแซมและปรับปรุงคูคลอง ท่อระบายน้ำ และบ่อน้ำที่ใช้เพอ
                                     ื่
                                                                                                     ื่
                   การเกษตร และลงโทษผู้ที่ทำลายสาธารณูปโภคประเภทนี้อย่างหนัก
                          ในส่วนของป่าไม้ ก็เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่นำพาความร่ำรวยมาสู่อาณาจักรอีก

                   ประเภทหนึ่ง โดยไม้สำคัญที่ใช้ในการค้ากับต่างชาติ คือ ไม้สัก ในขณะที่ผลผลิตอื่นๆที่ได้จากป่า
                   หรือสัตว์ป่าก็นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เป็นต้นว่า หนังสัตว์และงาช้าง

                          นอกจากนี้ ความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุและอัญมณียังมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมด้านนี้
                   เจริญเติบโตขึ้นอย่างมาก มีการขุดเหมืองทอง เงิน ทองแดง และเหล็ก ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ใน
                   การสร้างเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ดังที่นักโบราณคดีได้ค้นพบโบราณวัตถุประเภทค้อนเหล็ก สิ่ว

                   กระดิ่งประตู ช้อน ดาบ และหม้อเหล็ก ส่วนหินมีค่าและกึ่งมีค่าต่างๆ รวมไปถึงไข่มุกและเพชร
                                               16
                   ได้ถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับ  ทั้งนี้ ป่าไม้และแร่ธาตุล้วนเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐในการค้าแต่
                   เพียงผู้เดียว
                             • อุตสาหกรรม จากหลักฐานทางด้านวรรณคดีและโบราณคดี ทำให้ทราบว่าในสมัย
                   คุปตะนั้นมีความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมทอผ้าอย่างมาก แถบคุชราต เบงกอลและบาง

                   แคว้นในภาคใต้กลายเป็นศูนย์กลางการทอผ้าฝ้ายที่สำคัญ อย่างไรก็ดี ผ้าขนสัตว์และผ้าไหมมี
                   การนิยมใช้ด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งหินมีค่าและหินกึ่งมีค่าได้รับความนิยมในการนำมาทำเป็น

                   เครื่องประดับมากในสมัยนี้จนมีการผลิตในลักษณะอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง
                             • การค้าและการพาณิชย์ นอกจากอาชีพเกษตรกรแล้ว ในสมัยนี้มีการประกอบ
                   อาชีพที่หลากหลาย เป็นต้นว่า ช่างไม้ ช่างทาสี ช่างตีเหล็ก ช่างทอง ช่างปั้นหมอ ช่างทอผ้า ช่าง

                   ทำรองเท้า สถาปนิก และประติมากร ซึ่งอาชีพต่างๆเหล่านี้เป็นเครื่องกระตุ้นให้การค้ามีความ
                   เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยคุปตะ

                          ความเจริญทางการค้าดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งการค้าภายในและภายนอกประเทศ จากบันทึก
                   ของภิกษุจีนฟาเหียนกล่าวว่า พอค้ามีเสรีภาพในด้านการค้าขายและสามารถนำสินค้าไปขายทั้ง
                                               ่
                   ภายในและภายนอกประเทศได้อย่างอิสระ สำหรับการค้าขายภายในประเทศมีการคมนาคม




                          16  Sarla Khosla. Gupta Civilization, p. 65.
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143