Page 133 - 001
P. 133
122
(Prabhavati) ไปสมรสกับพระเจ้ารุทรเสนะที่ 2 (Rudrasena II) กษัตริย์แห่งวากาฏกะ
(Vakatakas) อันเป็นอาณาจักรที่ปกครองอยู่ในแถบมัธยประเทศ (Madhaya Pradesh) มหา
ราษฏระ (Maharashtra) และตะวันตกเฉียงเหนือของอานธระประเทศ หลังรุทรเสนะ
สิ้นพระชนม์ พระนางประภาวตีปกครองต่อ ช่วงนี้ราชวงศ์วากาฏกะอยู่ใต้อิทธิพลของอาณาจักร
คุปตะ
ในสมัยของจันทรคุปต์ที่ 2 วัฒนธรรมอินเดียเจริญสูงสุด นับเป็นยุคทองของอินเดีย ทรง
ตั้งศักราช “วิกรมศักราช” ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในอินเดียเหนือ ทั้งนี้ ความเจริญรุ่งเรืองของ
อาณาจักรในสมัยนี้เห็นได้จากบันทึกของหลวงจีนฟาเหียน (Fa-hsien) ที่เดินทางเข้ามาใน
อินเดียเพื่อคัดลอกพระไตรปิฎก บันทึกการเดินทางได้ระบุถึงวัดวาอารามในพุทธศาสนาจำนวน
มาก ฟาเหียนกล่าวว่าอินเดียเป็นประเทศที่สงบ มีระบอบการปกครองที่นุ่มนวล อาชญากรรมมี
น้อยมาก การเดินทางทำได้สะดวกไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง
จากบันทึกของฟาเหียนแสดงให้เห็นว่าในช่วง 700 ปี อินเดียมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
ุ
มากตั้งแต่สมัยที่เมกัสเธเนสเคยบันทึกไว้ ศีลธรรมทางพทธศาสนาและศาสนาเชนได้ค่อยๆซึม
เข้าสู่สังคมอินเดียอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเฟื่องฟูมาก แต่ศาสนาพราหมณ์ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ในช่วงนี้อินเดียดูเหมือนว่าจะเป็นดินแดนที่มีความสุขและเจริญสูงสุดในโลก เนื่องจากขณะนั้น
อาณาจักรโรมันกำลังจะเสื่อมสลาย และจีนก็กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านจากราชวงศ์ฮั่น
5
ไปสู่ราชวงศ์ถัง
กุมารคุปต์ที่ 1 (Kumara Gupta I) ครองราชย์ราว พ.ศ. 958-998 (ค.ศ.415-455)
ทรงเป็นพระโอรสที่ประสูติกับพระอัครมเหสีธรุวเทวี สันนิษฐานว่านามพระยศของพระองค์คือ
ิ
“มเหนทรทิตย์” (Mahendraditaya) เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทำพธีอัศวเมธ
(Asvamedha) เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ที่พระองค์พยายามที่จะ
ื้
ั
พิชิตพนที่ทางใต้ของแม่น้ำนรรมทา (Narmada) ซึ่งส่งผลต่อความสัมพนธ์กับอาณาจักรวากาฏ
กะ ในช่วงปลายรัชสมัยอาณาจักรคุปตะถูกรุกรานจากพวกหูณะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้ามา
6
ครอบครองแบคเตรียอยู่พกหนึ่งแล้ว จากนั้นจึงข้ามเทือกเขาและเข้าสู่ที่ราบอินเดีย อย่างไรก็ดี
ั
ตลอดรัชกาลพระองค์ยังสามารถรักษาพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของอาณาจักรไว้ได้ครบถ้วน แม้
จะมีการศึกสงครามในปลายรัชกาลก็ตาม
สกันทคุปต์ (Skanda Gupta) ครองราชย์ พ.ศ. 998-1010 (ค.ศ.455-467) พระเจ้า
แผ่นดินพระองค์นี้ได้ต่อสู้กับผู้รุกรานตลอดรัชกาล โดยเฉพาะพวกหูณะ ทำให้ชนต่างชาติกลุ่มนี้
ไม่กล้าเข้ามารุกรานอาณาจักรต่อไปอีกถึง 50 ปี พระองค์ครองราชย์อยู่ประมาณ 12 ปี และถือ
เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่องค์สุดท้ายของราชวงศ์คุปตะ หลังจากนั้นอาณาจักรก็เริ่มเสื่อมลง และ
อำนาจได้กลับไปอยู่ในมือของขุนนาง
ปุรุคุปต์ และผู้สืบทอด(Puru Gupta and the successors) ครองราชย์ พ.ศ. 1010-
1012 (ค.ศ. 467-469) หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าสกันทคุปต์ซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดา ปุรุ
5 จิรัสสา คชาชีวะ. โบราณคดีอินเดีย, หน้า 196.
6 รู้จักกันในอีกชื่อว่าพวกฮั่นขาว (White Han) เป็นกลุ่มชนในแถบเอเชียกลาง สันนิษฐานว่าเป็นสาขาหนึ่งในกลุ่มเตอร์โก-
มองโกล (Turko-Mongol)