Page 143 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 143
121
จะให้น้ําหนักกับแนวทางสะลัฟ เช่น หนังสืออะกีดะฮ์ อันนาญีน ฟี อิลฺมฺ อุศูล อัดดีน ที่แต่งโดยชัยคฺ
ต่วนมีนาล
จากหนังสือและตําราข้างต้นพอที่จะสรุปได้ว่า หนังสือและตําราที่ใช้ในการเรียนการ
สอนในป๎ตตานีล้วนแล้วเป็นหนังสือที่แต่งตามแนวทางของเคาะลัฟอะชาอิเราะฮ์ ซึ่งอุละมาอ์ป๎ตตานี
ส่วนใหญ่มีความเข้าใจว่า นี่คือหนทางของอะฮลิสสุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ อีกทั้งไม่ปฏิเสธแนวทาง
สะลัฟ
จากการอธิบายทั้งหมดข้างต้นพบว่าแนวทางการอธิบายเตาฮีดของสะลัฟนับตั้งแต่
สมัยของท่านนะบีมุฮัมมัด จนถึงสมัยอัตบาอฺ ตาบิอฺ ตาบิอีนและผู้ที่เจริญรอยตามแนวทางของ
สะลัฟจะยึดปฏิบัติตามแนวทางของอัลกุรอานและอัลฮะดีษอย่างเคร่งครัด โดยยึดถือตัวบทบัญญัติ
ของอัลกุรอานและอัลฮะดีษในทุกกรณีของเรื่องการศรัทธาไม่ปฏิเสธ ไม่ตีความ ไม่ให้วิธีการ และไม่
เปรียบเทียบอัลลอฮ์ กับสิ่งอื่น ส่วนแนวทางการอธิบายเตาฮีดของเคาะะลัฟคือจะให้ความสําคัญ
กับความคิดเหนือหลักฐานจากอัลกุรอานและอัลฮะดีษเมื่อเกิดการคัดค้านขึ้นมาระหว่างบทบัญญัติ
กับความคิดจะพิจารณากับความสอดคล้องกับเหตุผลแห่งความคิดที่ถือว่าถูกต้องและจะตีความตัวบท
์
บนหนทางของความสวยงาม เช่น การตีความ”อิสติวาอ” เป็น “อิสตีลาอ” และในขณะเดียวกันพบว่า
์
แนวทางการอธิบายเตาฮีดของชีอะฮ์จะให้ความสําคัญกับบรรดาอีมามเหนือกว่าอื่นสิ่งใดโดยการ
นําเอา หลักฐานของเตาฮีดไปใช้เป็นหลักกับบรรดาอีมาม จะให้อํานาจทั้งหมดกับบรรดาอีมาม
เหมือนกับอํานาจของอัลลอฮ์ พร้อมทั้งปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮ์ ที่ปรากฏในอัลกุรอาน
และอัลฮะดีษเช่นเหมือนกับมุอฺตะชิละฮ์