Page 129 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 129

107







                                     การศรัทธาดังกล่าวเป็นการให้อํานาจอย่างอิสระกับอิมามเหมือนอัลลอฮ์ซึ่งเป็น
                       อะกีดะฮ์ที่ขัดแย้งกับอะกีดะฮ์ของอะฮฺลิสสุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์

                                     จ. มีความเชื่อว่าวันและเวลาสามารถให้คุณและโทษได้
                                     อะกีดะฮ์อะฮฺลิสสุนนะฮ์มีการศรัทธาว่า คุณและโทษนั้นมาจากอัลลอฮ์   พระองค์

                       เดียวไม่ใช่การเวลากลางคืนและกลางวัน ดังที่อัลลอฮ์  ตรัสว่า :

                                                        ﭼ ﰆ  ﰅ  ﰄ  ﰃ  ﰂ  ﰁ  ﰀﯿ  ﯾ    ﯽ   ﯼ  ﯻ  ﯺ ﭽ

                                                      (
                                            :    ةيأ   53 )      لحنلا  ةروس
                                     ความว่า “และไม่มีความโปรดปรานใด ๆ ที่พวกเจ้าได้รับ นอกจากมันย่อม

                                     มาจากอัลลอฮ์ ดังนั้นเมื่อความทุกข์ร้ายประสบแก่พวกเจ้า พวกเจ้าก็จะ

                                     คร่ําครวญขอพรต่อพระองค์”
                                                                       (สูเราะฮอันนะฮลฺ : อายะฮ์ 53)
                                                                   ์
                                     ไม่มีนิอฺมัตใดที่มนุษย์ได้รับ เวันแต่มันมาจากอัลลอฮ์  เท่านั้น ดังนั้นเมื่อความทุกข์

                       ยาก ความขัดสน และความเจ็บไข้ได้ป่วยประสบแก่พวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าก็จะวิงวอนขอพรต่อ
                       พระองค์ (al-Baghawiy, 1420 : 3/83).

                                     อะฮฺลุสสุนนะฮ์มีการศรัทธาว่า ความโปรดปรานและความทุกข์ยากต่างๆ ที่เกิดขึ้น
                       ล้วนแล้วมาจากอัลลอฮ์   ทั้งหมด ดังนั้นจงอ้อนวอนร้องขอต่อพระองค์เถิด ต่างกับกลุ่มชีอะฮ์ที่มี

                       ความเชื่อว่ากลางคืนและกลางวันสามารถให้ร่องรอยได้ อะบู อับดุลลอฮ์ได้กล่าวว่า :

                                     “ท่านอย่าออกไปในวันศุกร์เพื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จําเป็น ในเมื่อเป็นวันเสาร์ และพระ

                                     อาทิตย์ได้ปรากฏขึ้น  ท่านจงออกไปเพื่อในสิ่งที่จําเป็นของท่าน”  (Ἰbn  Babawaih,
                                     1401  :  1/95  ;  al-Hurr  al-„Āmilīy,  1403  :  8/253) ท่านได้กล่าวอีกว่า :“วันเสาร์
                                                                           ์
                                     สําหรับเราและวันอาทิตย์สําหรับบะนีอุมัยยะฮ”  (Ἰbn Babawaih, 1401 : 2/342 ;
                                     al-Harr al-„Āmiliy, 1403: 8/253) ท่านได้กล่าวต่อไปว่า :“ท่านอย่าเดินทางในวัน

                                     จันทร์และอย่าขอสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จําเป็นในวันนั้น”  (al-Baraqīy,  1331  :  346  ;
                                     al-Hurr  al-„Āmiliy,  1403  :  8/255)  และได้กล่าวต่อไปอีกว่า :“วันพุธสุดท้ายของ


                                     เดือนคือ วันเคราะห์ร้ายตลอดกาล”  (Ἰbn  Babawaih,  1389  :  2/27  ;  al-Hurr
                                     al-„Āmiliy, 1403 : 8/257).
                                     จากการอธิบายข้างต้นพอที่จะสรุปได้ว่ากลุ่มชีอะฮ์มีความเชื่อว่า วันศุกร์ วันอาทิตย์

                       วันจันทร์และวันพุธ คือวันเคราะห์ร้าย  ซึ่งเป็นการลางร้าย (ตะตอยยุร) ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นกับมุชริกีน
                       ในสมัยญาฮิลิยยะฮ์ อิสลามได้ปราบล้างอะกีดะฮ์ชนิดนี้มาตั้งแต่สมัยช่วงแรกของท่านนะบี มุฮัมมัด  

                       และนับมันว่าเป็นสิ่งที่ภาคีอย่างหนึ่ง
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134