Page 94 - 053
P. 94
73
3.2.5 หลักสูตรการเรียนการสอนของศูนย์การศึกษาอิสลามประจ ามัสยิด (ตาดีกา)
ึ
หลักสูตรการเรียนการสอนของศูนย์การศกษาอิสลามประจ ามัสยิด (ตาดีกา) เดิมที
จะไม่มีหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน สอนตามความรู้และประสบการณ์ของครูผู้สอนในแต่ละศูนย์
ที่จะคิดค้นหลักสูตรขึ้นมา หรือใช้หลักสูตรร่วมที่มีจาหน่ายในร้านหนังสือ เชน แบบเรียนของชมรม
่
ตาดีกาหรือของประเทศมาเลเซีย เป็นต้น (ตาเฮรูลเลาะห์ หะมะ,2552 : 23) แต่โดยทั่วไปจะเน้นใน
เรื่องศาสนา ภาษาและอัล-กุรอาน โดยใช้ภาษามลายูเป็นสื่อ ตาดีกาจะสอนเฉพาะวิชาศาสนา หนังสือ
เรียนส่วนใหญ่จะเป็นภาษามาลายู หนังสือที่เป็นภาษาอาหรับจะมีเฉพาะรายวิชาภาษาอาหรับเท่านั้น
ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนคือภาษามลายูท้องถิ่นปะปนกับภาษามาลายูกลาง หนังสือเรียนจะเป็น
ภาษามาลายูกลาง แต่การอธิบายเนื้อหาจะเป็นภาษามาลายูถิ่นคล้าย ๆ กับส าเนียงภาษามาลายูของ
รัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย (อิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต, 2549: 7) การเรียนตาดีกาจะเป็นการเรียน
เพื่อให้เด็กสามารถอ่านออกเขียนได้จะเน้นให้เด็กได้รับรู้ถึงมารยาท การปฏิบัติตัวของมุสลิม การสอน
ิ
ู
การละหมาด การอ่านอัล-กุรอาน ซึ่งเป็นสิ่งที่มุสลิมทุกคนจะต้องรู้และปฏบัติให้ถกต้อง (สานักงาน
คณะกรรมการอิสลามจังหวดปัตตานี. 2548: 18) ต่อมากรมการปกครองได้เป็นเจ้าภาพในการ
ั
ู
ึ
ด าเนินการจัดทาหลักสูตรมีชอวา หลักสูตรอิสลามศกษาฟัรฎอัยนฺประจามัสยิด พ.ศ. 2548 / ฮ.ศ.
่
ื่
1426 (ฉบับปรับปรุง) คณะกรรมการอิสลามประจาจังหวัดปัตตานี นราธิวาสและยะลา หรือที่เรียกสั้น
่
ๆ วา หลักสูตร “48” หลักสูตรดังกล่าวได้ก าหนดกรอบสาระส าคญเกี่ยวกับ ความน า หลักการ
ั
จุดหมาย โครงสร้าง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ เวลาเรียน การจัดหลักสูตร การจัด
เวลาเรียน สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ในแต่ละช่วงชั้น สื่อการ
ั้
่
เรียนรู้ การวดและการประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การผ่านชวงชนและการจบหลักสูตร เอกสาร
ั
ั
หลักฐานการศกษา การเทียบโอนผลการเรียน และการพัฒนาศกยภาพครู ซึ่งมีรายละเอียดตามที่
ึ
ปรากฏในหลักสูตรดังนี้
1. ความน า
อิสลามให้ความส าคัญเรื่องการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง และอิสลามบังคับให้มุสลิม ทุกคน
ศึกษาเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสในคัมภร์ อัล-กุรอานซูเราะฮฺอัล-อะลัก อายะฮฺที่ 4-5
ี
ความว่า “ผู้ทรงสอนความรู้ด้วยปากกา และผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้” และมุสลิมทั้งชายและ
ั
หญิง” (รายงานโดยอะหมัดและอิบนุมาญะฮฺ) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกราช 2540
์
ื
ได้บัญญัติในมาตรา 38ว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณในการถอศาสนา นิกายของศาสนาหรือลัทธ ิ
ี
ิ
ิ
นิยมในทางศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏบัติตามศาสนาบัญญัติหรือปฏบัติพิธกรรมตามความ
เชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ
้
ุ้
ศีลธรรมอันดีของประชาชน ในการใชเสรีภาพ ดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคมครอง