Page 38 - 050
P. 38
16
ึ
ี
ุ
ู
็
ิ
ิ
จะได้มประสทธภาพโดยมส านักงานคณะกรรมการการศกษาเอกชนเปนผู้ควบคมดแล สนับสนน
ุ
ี
ิ
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ส่งเสรมให้การบรหารงานของโรงเรยนสามารถด าเนนไปด้วยด โดยอาศัยพระราชบัญญัตโรงเรยน
ี
ิ
็
ี
เอกชน พ.ศ. 2525 เปนหลักในการบรหารโรงเรยนเอกชน นอกจากน้เพื่อให้การด าเนนการบรรล ุ
ิ
ี
ี
ิ
ิ
ี
ี
่
ี
ุ
ี่
็
้
เปาหมายอย่างมพลังและมประสทธภาพจ าเปนทจะต้องมการกระจายอ านาจและให้ทกฝายมส่วน
์
ร่วม ซงสอดคล้องกับเจตนารมณของรฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และ
ั
ู
่
ึ
ิ
ี่
ิ
ิ
ึ
เปนไปตามหลักการของพระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พ.ศ. 2542 และทแก้ไขเพิ่มเตม (ฉบับท ี่
็
้
ี
ึ
ี
ึ
่
ิ
2) พ.ศ.2545ซงให้มการจัดระบบโครงสรางและกระบวนการจัดการศกษาของไทยมเอกภาพเชง
ี่
นโยบายและมความหลากหลายในทางปฏบัต มการกระจายอ านาจไปส่เขตพื้นทการศกษาและ
ิ
ี
ู
ึ
ิ
ี
ิ
โรงเรยนดังปรากฏในบัญญัตมาตรา 39 บัญญัตไว้ว่า “ก าหนดให้กระทรวงกระจายอ านาจการ
ิ
ี
ิ
ิ
ุ
บรหารและการจัดการการศกษาทั้งด้านวิชาการ งานประมาณ การบรหารงานบคคลและการบรหาร
ิ
ึ
ึ
ทั่วไป ไปยังคณะกรรมการและส านักงานเขตพื้นทการศกษาและโรงเรยนโดยตรง”
ี่
ี
ึ
(กระทรวงศกษาธการ, 2546)
ิ
ั
้
ี
ิ
ิ
2) การบรหารจดการของผูบรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
ิ
ิ
ี
ี่
ี
ผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามมภารกิจทจะต้องปฏบัตใน
ิ
ิ
ุ
การด าเนนงานการบรหารจัดการโรงเรยนเอกชนให้ส าเรจลล่วง ซงวิธการปฏบัตให้ได้ดข้นอยู่กับ
่
ี
ึ
ิ
ิ
็
ิ
ึ
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
็
ความเปนผู้น าของผู้บรหารเพราะพฤตกรรมการบรหารของผู้บรหารในแต่ละวันมความส าคัญ มี
ุ
ี
ี
ิ
อทธพลอย่างยิ่งทจะมผลกระทบต่อการปฏบัตงานของบคลากรในโรงเรยน นอกจากน้ในฐานะ
ิ
ี่
ี
ิ
ิ
ี
ุ
ี
ผู้บรหารโรงเรยนเอกชนยังมหน้าทผลตนักเรยนทมคณภาพ มความร มคณธรรม ตามรฐธรรมนญ
ี
ั
ู
ี
้
ู
ี่
ี่
ี
ี
ุ
ิ
ิ
แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 และพัฒนาโรงเรยนให้มคณภาพตามมาตรฐานตาม
ี
ุ
ี
ิ
ิ
่
ี
พระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พ.ศ. 2542 ซงผู้บรหารโรงเรยนเอกชนควรมหลักในการบรหาร
ิ
ึ
ิ
ึ
ี
ึ
ั
ุ
ี
จัดการเพื่อรบรองมาตรฐานคณภาพการศกษาโรงเรยนเอกชน ดังน้ ี (ส านักงานคณะกรรมการ
ึ
การศกษาเอกชน, 2544 : 196 -198)
ื
ั
ุ
ิ
1.ให้ความส าคัญกับคน คอให้ความส าคัญกับการบรหารทรพยากรบคคล
ตั้งแต่การคัดเลอก สรรหา บ ารงรกษา พัฒนา ให้ประโยชน์และการประเมนผล จนกระทั่งเกษยณ
ั
ุ
ี
ื
ิ
้
ี
ู
ออกจากโรงเรยน ยิ่งโรงเรยนได้บคลากรทมความรความสามารถมาท างานยิ่งท าให้หน่วยงาน
ี
ี่
ุ
ี
ี่
ึ
เจรญก้าวหน้าเพราะคนเปนปจจัยส าคัญทสดในการพัฒนาการศกษาให้มคณภาพ ผู้บรหารโรงเรยน
ิ
ุ
็
ี
ี
ุ
ั
ิ
ุ
ควรจะสรางสัมพันธภาพทด ความเปนกันเอง จัดเตรยมวัสด อปกรณและเทคโนโลยีให้พรอมเพื่อ
ุ
ี่
้
ี
้
์
็
ี
่
ึ
อ านวยความสะดวกในการท างานของบคลากรในโรงเรยนซงเปนการท างานไปพรอมๆกันมากกว่า
้
ี
ุ
็
การสั่งการตามล าดับ