Page 35 - 050
P. 35
13
ี
ู
ั
ึ
ปอเนาะถกมองในแง่ลบ จงก่อให้เกิดความพยายามจากภาครฐทจะให้ปอเนาะมาจดทะเบยนกับ
ี่
ั
ี
ั
ั
ิ
ี
ั
ภาครฐ ในป พ.ศ. 2501 สมัยรฐบาลของจอมพลสฤษด์ ธนะรชต์ มการก าหนดให้ปรบปรงการศกษา
ุ
ึ
ั
ู
ึ
ู
ื
ี่
ในส่วนภมภาคข้น โดยให้ภาคการศกษา 2 รบผิดชอบดแลการศกษาในสจังหวัดชายแดนภาคใต้ คอ
ึ
ึ
ิ
ปตตาน ยะลา นราธวาสและสตล เพื่อวางแผนการพัฒนาการศกษาในพื้นทแห่งน้ โดยมปอเนาะเปน
ู
ั
ี
ี่
ี
ี
ิ
็
ึ
ี่
ื
ั
เปาหมายส าคัญทจะต้องพัฒนาเพราะการจัดการศกษาปอเนาะในสมัยนั้น ในสายตาของภาครฐถอว่า
้
ึ
ึ
ึ
ั
ี
ี่
ื่
็
เปนการจัดการศกษาทล้าหลังกว่าสถาบันอน (สถาบันเอเชยศกษา, 2549 : 64) ประกอบกับปญหา
ี
ุ
ั
ิ
ึ
ความปลอดภัยมั่นคงของชาต เพราะปอเนาะไม่ได้จดทะเบยน ไม่มการควบคมดแล ภาครฐจงม ี
ู
ี
ั
ื
ความสนใจและจะพยายามปรบปรงปอเนาะซงเปนสถาบันทางการศกษาของชาวไทยเช้อสายมลายู
ุ
่
็
ึ
ึ
์
ี
ให้มาอยู่ภายใต้กฎหมายโรงเรยนราษฎร โดยเรยกว่าโรงเรยนราษฎรสอนศาสนาอสลามเพื่อท ี่
์
ิ
ี
ี
ุ
ิ
รฐบาลจะสามารถควบคมดแลการเรยนการสอน หลักสตรและการวัดและการประเมนผลได้
ั
ู
ู
ี
(อรรณพ เนยมคง, 2538:52)
ี
ิ
ี่
หน่วยงานทเกี่ยวข้องโดยกระทรวงศกษาธการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยได้จัด
ึ
ุ
สัมมนาเพื่อปรบปรงปอเนาะภาคใต้ มมตให้มการจดทะเบยนปอเนาะต่อกระทรวงศกษาธการ
ี
ี
ี
ึ
ิ
ั
ิ
ในช่วง พ.ศ. 2504 – 2509 โดยเมอวันท 12 พฤษภาคม 2504 กระทรวงศกษาธการได้ประกาศใช้
ึ
ิ
ี่
ื่
ุ
ระเบยบกระทรวงศกษาธการว่าด้วยการปรบปรงส่งเสรมปอเนาะในภาคการศกษา 2 พ.ศ. 2504 ซง
ิ
ึ
่
ึ
ึ
ั
ิ
ี
็
็
็
ู
ี
นับเปนการพัฒนาปอเนาะไปส่ระบบการจัดการเรยนการสอนหรอเปนการจัดระบบการศกษาเปน
ื
ึ
ิ
ิ
ี
ี
์
์
ี
โรงเรยนราษฎรสอนศาสนาอสลามตามพระราชบัญญัตโรงเรยนราษฎร พ.ศ. 2497 การจดทะเบยน
ิ
ปอเนาะตามระเบยบน้ก าหนดให้ปอเนาะทจะได้รบการส่งเสรมหรอช่วยเหลอจากทางราชการต้อง
ื
ื
ี
ั
ี
ี่
็
ี
ี
ู
็
ี
จดทะเบยนเปนโรงเรยนวิชาศาสนาให้ถกต้องและการจดทะเบยนให้เปนไปตามความสมัครใจของ
ี
ู
ี
ี
ิ
ื่
ึ
โต๊ะคร ผลการใช้ระเบยบน้ ีปรากฏว่าเมอส้นป พ.ศ. 2507 มปอเนาะในภาคการศกษา 2 มาจด
ี่
ุ
ทะเบยนกับทางราชการจ านวน 171 ราย ปอเนาะทจดทะเบยนแล้วได้มความสนใจทจะปรบปรง
ี่
ั
ี
ี
ี
ี
ู
ี
ี่
ิ
ี
กิจกรรม อาคาร สถานทสอน หลักสตรการเรยนการสอน มชั้นเรยน และมการวัดผลและประเมนผล
ี
ี
ิ
ั
็
ี
จนกระทั่งในป พ.ศ.2508 รฐบาลมความเหนว่าควรส่งเสรมปอเนาะทจดทะเบยนแล้วให้แปรสภาพ
ี
ี่
เปนโรงเรยนราษฏรสอนศาสนาอสลาม ต่อมาเมอวันท 14 มถนายน พ.ศ. 2509 คณะรฐมนตรได้ม ี
ั
ิ
ี
็
ื่
ี่
ี
ุ
์
ิ
ึ
มตห้ามจัดตั้งปอเนาะข้นมาใหม่ตามข้อเสนอแนะของสภาความมั่นคงแห่งชาตและให้ปอเนาะทจด
ิ
ิ
ี่
ี
ี
็
ิ
ุ
ื
ทะเบยนแล้วจะต้องมาขอจัดตั้งเปนโรงเรยนราษฎรสอนศาสนาอสลามภายในเดอนมถนายน พ.ศ.
ิ
์
2514 และในป พ.ศ. 2526 โรงเรยนราษฎรสอนศาสนาอสลามได้เปลยนเปนโรงเรยนเอกชนสอน
ี
ี่
ี
็
ิ
์
ี
ิ
ิ
ศาสนาอสลามเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัตโรงเรยนเอกชน พ.ศ. 2525
ี
ิ
(อบราเฮ็ม ณรงค์รกษาเขต, 2551 : 63-65)
ั