Page 183 - 050
P. 183
161
ความเชอมั่นของเครองมอ (Reliability) ด้วยวิธการหาค่าสัมประสทธ์ ิแอลฟา (Coefficient of Alpha)
ื่
ิ
ื่
ี
ื
ื่
ใช้สตรของครอนบาค (Cranbach)ได้ค่าความเชอมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.968 ซงแสดงว่าใช้ได้ โดย
ู
ึ
่
แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ชนด 5 ตัวเลอก แบบส ารวจรายการ
ื
ิ
ี
ี่
็
็
ิ
(Check – List) และแบบสอบถามปลายเปด แบ่งออกเปน 3 ตอน ดังน้ ตอนท 1 เปนแบบสอบถาม
ี
ู
็
ข้อมลเกี่ยวกับสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม มลักษณะเปนแบบส ารวจรายการ (Check- List)
เกี่ยวกับ ต าแหน่ง อายุ ระดับการศกษา ประสบการณการท างานและขนาดของโรงเรยน จ านวน 5
์
ึ
ี
ิ
ี่
ิ
์
ิ
ข้อ ตอนท 2 ข้อค าถามเกี่ยวกับระดับสภาพการด าเนนการตามกระบวนการบรหารเชงกลยุทธของ
ี
ี
ี
ึ
็
ิ
่
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม มจ านวน 5 ข้อใหญ่ และ 52 ข้อย่อย ซงมลักษณะเปนแบบ
มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ และตอนท 3 เปนแบบสอบถามปลายเปดเกี่ยวกับ
็
ิ
ี่
ิ
ิ
ั
์
ิ
ปญหาและข้อเสนอแนะเพื่อหาแนวทางการด าเนนการตามกระบวนการบรหารเชงกลยุทธของ
ี
ิ
ี่
ั
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตานและขั้นตอนท 3
ี
ึ
็
ื
ื
ู
เปนการสัมภาษณ เครองมอทใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลการสัมภาษณ คอ แบบสัมภาษณอย่างม ี
์
ี่
์
์
ื่
ี่
้
โครงสราง (Structured Interview) และแบบแผนทชัดเจนแน่นอน ผู้วิจัยปรบค าถามให้ยืดหยุ่นตาม
ั
ู
่
ี
สถานการณเพื่อให้ได้น ามาซงข้อมลตามทต้องการ แต่ทั้งน้ทั้งนั้นการสนทนาก็อยู่ภายใต้กรอบท ี่
ึ
ี่
์
ิ
ื
ก าหนดไว้ ในการเก็บรวบรวมข้อมลภาคสนามผู้วิจัยด าเนนการขอหนังสอแนะน าตัวผู้วิจัย จาก
ู
ึ
วิทยาลัยอสลามศกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครนทร วิทยาเขตปตตาน เพื่อขอความอนเคราะหเก็บ
ุ
ิ
ั
ี
ิ
์
์
ื
ข้อมลท าวิทยานพนธ แล้วน าแบบสอบถามพรอมหนังสอแนะน าตัวส่งให้โรงเรยนเอกชนสอน
์
ู
้
ิ
ี
ศาสนาอสลามในจังหวัดปตตานด้วยตนเอง จากนั้นผู้วิจัยตดตามจัดเก็บแบบสอบถามคนจาก
ิ
ี
ิ
ั
ื
ี
ิ
ี่
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตานด้วยตนเอง ภายหลังจากทส่งแบบสอบถามไป
ี
ั
์
แล้ว 2 สัปดาห โดยผู้วิจัยได้ตดต่อทางโทรศัพท์กับผู้ทรบแบบสอบถามของโรงเรยนเพื่อทจะไปเก็บ
ี่
ิ
ี่
ั
ี
ี
ี
แบบสอบถาม และมบางโรงเรยนทส่งแบบสอบถามกลับคืนมายังผู้วิจัยโดยตรง และผ่านทาง
ี่
ื
ี่
ี
ี
ไปรษณย์ ด้วยเหตผลทว่าขณะทผู้วิจัยตดตามเก็บแบบสอบถามคน ทางโรงเรยนยังไม่ท าการกรอก
ี่
ุ
ิ
ื
ิ
็
่
ึ
ั
แบบสอบถามดังกล่าว ซงผู้วิจัยตดต่อทางโทรศัพท์เปนระยะๆจนได้รบแบบสอบถามกลับคนครบ
็
์
ิ
ุ
ิ
้
ตามจ านวน ทั้งส้น 198 ชด คดเปนรอยละ 100 ในส่วนของการสัมภาษณผู้วิจัยได้ประสานงานกับ
์
ิ
ิ
ี
ุ
่
ึ
็
้
ี่
กล่มเปาหมายทจะสัมภาษณ ซงเปนผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม แล้วช้ ีแจง
ื่
วัตถประสงค์และเรองทจะสัมภาษณ นัดวัน เวลา เพื่อสัมภาษณ จากนั้นผู้วิจัยด าเนนการขอหนังสอ
ื
ิ
ุ
ี่
์
์
ิ
ี
ิ
ึ
ั
ุ
์
จากวิทยาลัยอสลามศกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครนทร วิทยาเขตปตตาน เพื่อขอความอนเคราะห ์
์
ิ
ื
ให้นักศกษาสัมภาษณเพื่อเก็บข้อมลท าวิทยานพนธ แล้วน าแบบสัมภาษณพรอมหนังสอส่ง
์
์
ู
ึ
้
์
ี
์
ผู้อ ำนวยกำรโรงเรยนด้วยตนเอง วิธกำรสัมภำษณผู้สัมภำษณได้แนะน ำตัวเพื่อสรำงควำมสัมพันธ ์
ี
้
ิ
่
ี
ุ
ึ
ี
ี่
์
ี
อันดและช้แจงวัตถประสงค์ในกำรวิจัยคร้ ังน้ ซงท ำให้ผู้ให้สัมภำษณไว้วำงใจและกล้ำทจะเปดเผย