Page 30 - 049
P. 30

16


                                                                                               ์
                                                                                                  ็
                                                                             ึ
                                                                ู
                                 Keeves (1988) ได้แบ่งประเภทของรปแบบทางการศกษาและสังคมศาสตร เปน 5
                               ื
                       ประเภท คอ
                                                   ี
                                                                                        ุ
                                    ู
                                                                                             ุ
                                            ิ
                                               ี
                                                                           ู
                                                                        ็
                                                                                  ี่
                                 1. รปแบบเชงเทยบเคยง (Analogue Model) เปนรปแบบทใช้การอปมาอปมัย
                                                 ู
                                           ่
                                           ึ
                             ี
                                              ็
                         ี
                                                                                       ี่
                                                             ้
                                                                                      ์
                                                                                         ็
                       เทยบเคยงปรากฏการณซงเปนรปธรรมเพื่อสรางความเข้าใจในปรากฏการณทเปนนามธรรม เช่น
                                          ์
                                                              ู
                                                                            ึ
                                                                       ี
                                                                           ่
                                                   ี
                                                                                        ิ
                                                       ี่
                                                                               ุ
                        ู
                       รปแบบในการท านายจ านวนนักเรยนทจะเข้าส่ระบบโรงเรยนซงอนมานแนวคดมาจากการเปดน ้า
                                                                                                    ิ
                       เข้า และปล่อยน ้าออกจากถัง นักเรยนทจะเข้าส่ระบบเปรยบเสมอนกับน ้าทไหลเข้าถัง นักเรยนทจะ
                                                       ี่
                                                             ู
                                                                      ี
                                                   ี
                                                                                                  ี
                                                                                     ี่
                                                                                                       ี่
                                                                            ื
                                            ื
                       ออกจากระบบเปรยบเสมอนกับน ้าทไหลออกจากถัง ดังนั้นนักเรยนทคงอยู่ในระบบจงเท่ากับ
                                      ี
                                                                                              ึ
                                                                                ี่
                                                     ี่
                                                                            ี
                                                                                                     ิ
                       นักเรยนทเข้าส่ระบบลบด้วยนักเรยนทออกจากระบบ เปนต้น จดม่งหมายของรปแบบก็เพื่ออธบาย
                                                                                        ู
                                                   ี
                                   ู
                           ี
                                                                              ุ
                                                                           ุ
                                                       ี่
                               ี่
                                                                     ็
                       การเปลยนแปลงประชากรนักเรยนของโรงเรยน
                                                            ี
                                                 ี
                             ี่
                                                                                            ื่
                                                                         ู
                                    ู
                                                                                ี่
                                            ิ
                                                                                         ็
                                 2. รปแบบเชงข้อความ (Semantic Model) เปนรปแบบทใช้ภาษาเปนสอในการบรรยาย
                                                                      ็
                                                                                    ็
                                                                                                       ิ
                                                                                            ้
                                                                 ิ
                       หรออธบายปรากฏการณทศกษาด้วยภาษา แผนภูม หรอรปภาพ เพื่อให้เหนโครงสรางทางความคด
                                             ี่
                             ิ
                                                                      ู
                                           ์
                                                                    ื
                         ื
                                              ึ
                                                 ์
                                                                              ์
                       องค์ประกอบและความสัมพันธขององค์ประกอบของปรากฏการณนั้นๆ และใช้ข้อความในการ
                                                                                    ื
                                                     ึ
                       อธบายเพื่อให้เกิดความกระจ่างมากข้น แต่จดอ่อนของรปแบบประเภทน้คอ ขาดความชัดเจน
                                                           ุ
                                                                     ู
                                                                                   ี
                         ิ
                                                                                   ู
                       แน่นอน ท าให้ยากแก่การทดสอบรปแบบ แต่อย่างไรก็ตามก็ได้มการน ารปแบบน้มาใช้กับ
                                                                             ี
                                                                                          ี
                                                    ู
                                                             ี
                                        ู
                                                  ี
                           ึ
                                                      ู
                                                      ้
                       การศกษามาก เช่น รปแบบการเรยนรในโรงเรยน
                                                     ็
                                    ู
                                            ี่
                                                                         ื
                                                              ิ
                                             ี
                                 3. รปแบบทมลักษณะเปนแผนภูม แบบแผนหรอโครงการ (Schematic Model)
                                    ู
                                                                                       ี่
                                            ิ
                                                                                ู
                                 4. รปแบบเชงคณตศาสตร (Mathematical Model) เปนรปแบบทใช้แสดงความสัมพันธ     ์
                                                       ์
                                                                             ็
                                                ิ
                                        ื
                       ขององค์ประกอบหรอตัวแปรโดยสัญลักษณทางคณตศาสตร ปจจบันมแนวโน้มว่าจะน าไปใช้ใน
                                                                                  ี
                                                                             ุ
                                                                         ์
                                                                           ั
                                                                  ิ
                                                           ์
                              ิ
                                                                          ิ
                                                                                          ู
                                                                                     ึ
                                              ึ
                                         ์
                       ด้านพฤตกรรมศาสตรมากข้นโดยเฉพาะในการวัดและประเมนผลทางการศกษา รปแบบลักษณะน้        ี
                       สามารถน าไปส่การสรางทฤษฎ เพราะสามารถน าไปทดสอบสมมตฐานได้ รปแบบทางคณตศาสตร         ์
                                                                                                  ิ
                                          ้
                                    ู
                                                 ี
                                                                                      ู
                                                                               ิ
                        ี
                                                   ิ
                                            ู
                       น้ส่วนมากพัฒนามาจากรปแบบเชงข้อความ
                                                                     ู
                                                   ุ
                                 5. รปแบบเชงสาเหต (Causal Model) เปนรปแบบทเร่มมาจากการน าเทคนค
                                                                                               ิ
                                    ู
                                                                            ี่
                                            ิ
                                                                              ิ
                                                                   ็
                                                                                                 ุ
                                                                                           ิ
                                                                                  ์
                                                                                   ู
                       การวิเคราะหเสนทาง (Path Analysis) ในการศกษาเกี่ยวกับพันธศาสตร รปแบบเชงสาเหตท าให้
                                                             ึ
                                                                            ุ
                                   ้
                                 ์
                                                                                          ู
                                                                                                 ี
                                                                                                   ื
                               ึ
                                           ิ
                                   ู
                                                    ี่
                                                      ี
                       สามารถศกษารปแบบเชงข้อความทมตัวแปรสลัยซับซ้อนได้ แนวคดส าคัญของรปแบบน้ คอ ต้อง
                                                                               ิ
                                        ี่
                                                  ื
                         ้
                       สรางข้นจากทฤษฎทเกี่ยวข้องหรองานวิจัยทมมาแล้ว รปแบบจะเขยนในลักษณะสมการเสนตรง
                            ึ
                                      ี
                                                                                                  ้
                                                             ี
                                                            ี่
                                                                    ู
                                                                              ี
                       แต่ละสมการแสดงความสัมพันธเชงเหตเชงผลระหว่างตัวแปร จากนั้นมการเก็บรวบรวมข้อมูลใน
                                                    ิ
                                                                                   ี
                                                        ุ
                                                          ิ
                                                  ์
                                                                         ุ
                                                                                ็
                       สภาพการณทเปนจรงเพื่อทดสอบรปแบบ รปแบบเชงสาเหตน้แบ่งเปน 2 ลักษณะ คอ
                                                                           ี
                                 ์
                                        ิ
                                                           ู
                                                                                            ื
                                                    ู
                                  ี่
                                                                  ิ
                                    ็
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35