Page 115 - 045
P. 115
95
1. มีความถูกต้อง
2 .ทันเวลา
3. คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
4 .มีความยึดหยุ่น
5. มีความสมเหตุสมผล
6. มีความเข้าใจ
7 .ยุติธรรมและมีเป้าหมาย
8 .มีกลยุทธ์
ดังนั้นการจะใช้วิธีการควบคุมงานแบบใดก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน ถ้างานนั้น
เป็นงานประจ าหรอโครงการขนาดเล็กก็อาจใช้การรายงาน การตรวจงาน การใช้เแผนภูมิแกนท์
ื
แต่ถ้างานนั้นมีขอบข่ายกว้างขวาง สลับซับซ้อนมาก มีกิจกรรมหลายกิจกรรม ก็อาจใช้การวิเคราะห์
ข่ายงาน (PERT และ CPM) ส่วนวิธีอื่นๆ ก็อาจใช้ควบคู่กันได้
อย่างไรก็ตามถึงแม้การควบคุมถือว่าเป็นองค์ประกอบหลักในการผลักดันให้
องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่ก าหนดไว้ก็ตาม ผู้บรหารจะต้องค านึงถึงลักษณะขององค์กร
ิ
ิ
แต่ละแห่ง วัฒนธรรมในองค์กร การตัดสินใจในการใช้วิธีการควบคุมประเภทใด และมีจรยธรรม
ในการควบคุมก็จะท าให้การควบคุมมีประสิทธิภาพ
การประเมินผลแผนถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการวางแผน ซึ่งผู้ที่น า
ื่
แผนไปปฏิบัติ จะต้องให้ความส าคัญไม่น้อยไปกว่าขั้นตอนอนๆ เพราะถ้าน าแผนไปปฏิบัติแล้ว
ไม่มีการติดตามและประเมินผลก็ไม่อาจวัดได้ว่าแผนนั้นบรรลุวัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้มากน้อย
ุ
เพียงใด มีปัญหาอปสรรคอะไรบ้าง การประเมินผลเป็นเรองของการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และ
ื่
ิ
ข้อเท็จจรงเกี่ยวกับการด าเนินงาน ตลอดจนผลการด าเนินงานตามแผนและโครงการ และน าข้อมูล
ื
ี
นั้นมาเปรยบเทียบกับมาตรฐานหรอวัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้ ในขั้นการวางแผนผลจากการ
ุ
ประเมินเป็นเช่นไร ก็จะท าเป็นรายงานสรปเสนอผู้บังคับบัญชา โดยปกติการประเมินผลจะต้อง
กระท าพร้อมๆกับการด าเนินงานตามโครงการ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ คือ ประเมินผลก่อน
ื
ประเมินผลระหว่าง และประเมินผลหลังการด าเนินการตามแผนและโครงการ หรอกรณีที่เป็นแผน
ื
หรอโครงการที่ต่อเนื่องมีช่วงการด าเนินงานหลายปี การประเมินผลเป็นช่วงๆ อาจเป็นช่วงละ