Page 150 - 040
P. 150

150







                                                                                             ี
                                                ผลการวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า  สภาพการเป็นองค์การแห่งการเรยนรู้ของ
                       สถานศึกษาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยภาพรวมและรายด้าน  มีสภาพการเป็นองค์การแห่ง

                               ู้
                       การเรียนรอยู่ในระดับ “มาก”  ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของจ าเริญ  จิตรหลัง (2550 : บทคัดย่อ)
                       ที่ศึกษารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยการจัดการความรู้ที่ส่งผลต่อองค์การแห่ง

                       การเรียนรู้ในสถานศึกษาสังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดภาคใต้

                       ซึ่งพบว่า  สถานศึกษาสังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดภาคใต้ มีระดับ

                                              ี
                       ความเป็นองค์การแห่งการเรยนรู้โดยภาพรวมอยู่ระดับมาก  การที่ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็น
                       เพราะว่า  สถานศึกษาได้ให้ความส าคัญต่อการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา  ทั้งทางด้านความรู้ของ

                       องค์การโดยมีการส่งเสริมให้บุคลากรในสถานศึกษามีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในและนอก

                       สถานศึกษา  โดยการจัดหาหรือแสวงหาโอกาสเพื่อให้การเรียนรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท าให้
                       บุคลากรยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งขยายขีดความสามารถของตนออกไป  ซึ่งองค์การที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ก็จะ

                                                                ั
                       เติบโตพัฒนาตอไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด (วิโรจน์ สารรตนะ,  2544 : 6-7)  และสามารถด ารงอยู่ได้ใน
                                   ่
                       สังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้  ซึ่งสอดรับกับพระราชกฤษฎีกาว่า “ส่วนราชการต้องมี

                       หน้าที่ในการพัฒนาความรู้เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ าเสมอ  โดยต้องรับร ู้

                       ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลความรู้ต่างๆ  เพื่อน ามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้

                       อย่างเหมาะสมต่อสถานการณ์  รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และ

                       ปรับทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน”
                       รวมทั้งเนื่องจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ. 2542  ได้ระบุเกี่ยวกับระบบการบริหาร

                       และสนับสนุนทางการศึกษา  โดยได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการบุคลากรทางการ

                       ศึกษา  และชุมชนให้ได้มีส่วนร่วมในการบริหารสถานศึกษาในฐานะเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา

                       มีบทบาทท าหน้าที่ในการก าหนดนโยบายและแผนพัฒนาของสถานศึกษา  ก ากับติดตามการด าเนน
                                                                                                        ิ
                       งานของสถานศึกษา  รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของสถานศึกษา  ซึ่งเป็นการ

                       กระจายอ านาจการบริหาร  เพื่อให้การบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

                                                2.  ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อสภาพการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของ

                       สถานศึกษาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

                                               ผลการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โดยภาพรวมและรายด้าน  ผู้บรหารสถานศึกษามี
                                                                                            ิ
                       ความเห็นว่า  ปัจจัยทั้ง 11  ปัจจัยอยู่ในระดับ “มาก”  เรียงล าดับจากมากไปหาน้อย  ดังนี้

                       1) ด้านภาวะน า  2) ด้านความมีประสิทธิผล  3)ด้านบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์การ 4)ด้านแรงจูงใจ
   145   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155