Page 49 - 026
P. 49
49
2. การตีความที่ผิดพลาด มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งที่มาจากสาเหตุการคล้อย
ตามอารมณ์ใฝุต่ า จิตใจที่อคติเอนเอียง แสวงหาผลประโยชน์หรือคล้อยตามคนอื่นอย่างไม่ลืมหูลืมตา
3. คล้อยตาม หรือ ยอมจ านนตามอารมณ์ใฝุต่ า ทั้งอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
4. การติดยึดกับการฟัตวาเก่า ๆ ติดกับดักทางความคิดเดิมๆ หรือติดกรอบด้วยกฎ
กติกาที่ก าหนดโดยต ารายุคก่อนๆ โดยไม่ค านึงถึงความเปลี่ยนแปลง และข้อเท็จจริงร่วมสมัย
5. การที่ไม่สามารถสรุปแก่นแท้ของปัญหา ให้สอดคล้องกับหลักศาสนบัญญัติที่
ถูกต้อง
เนื่องจากศาสนบัญญัติเป็นสิ่งที่ถูกระบุอย่างชัดเจน ในขณะที่สถานการณ์และ
สภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ดังนั้นจึงเป็นภารกิจส าคัญส าหรับมุฟตีที่จะต้องตีความ
หลักศาสนบัญญัติให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคปัจจุบันที่กระแส
ความเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็วและไร้ขีดจ ากัด มุสลิมต้องรู้จักประยุกต์ใช้ค าสอนของศาสนา
อย่างรู้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลง หาไม่แล้ว ค าสอนศาสนาและค าฟัตวาจะไม่เป็นเพียงทฤษฎีใน
ต าราที่ไม่สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงเท่านั้น หากเป็นแหล่งก าเนิดของความโกลาหลวุ่นวายใน
สังคมอย่างไม่รู้จักจบสิ้น – ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครอง
มุสลิมทุกคนโดยเฉพาะมุฟตีจ าเป็นต้องประดับตนเองด้วยความรู้และวิทยาการร่วม
สมัยด้วยการสานเสวนา จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อบรมสัมมนา สร้างเครือข่ายวิชาการทั้ง
ระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และนานาชาติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความรู้ ถกปัญหาและหาข้อยุติใน
ประเด็นต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้าใจในศาสตร์แขนงต่าง ๆ ดังนี้
1. ศาสตร์ที่ว่าด้วยฟิกฮฺ การเผยแผ่
2. ศาสตร์ที่ว่าด้วยฟิกฮฺ ความเป็นจริง
3. ศาสตร์ที่ว่าด้วยฟิกฮฺ การบริหารการจัดการความขัดแย้ง
4. ศาสตร์ที่ว่าด้วยฟิกฮฺ ชนกลุ่มน้อย
5. ศาสตร์ที่ว่าด้วยฟิกฮฺ ก าลังความสามารถและศักยภาพ
6. ศาสตร์ที่ว่าด้วยฟิกฮฺ การก าหนดยุทธศาสตร์และการล าดับความส าคัญ
โดยสรุป บทบาทด้านการตัดสินข้อสงสัยในหลักการอิสลาม เป็นการด าเนินการ
พิจารณาตัดสิน และให้ความเห็นในข้อสงสัย โดยใช้หลักการอิสลาม ร่วมมือกับองค์กรอิสลาม
ภายในประเทศและต่างประเทศ ในการวินิจฉัย ชี้ขาด ตัดสินและตีความในประเด็นทางศาสนาที่มี
ความเห็นแตกต่างกัน

