Page 63 - 022
P. 63
63
ิ
ี
ุ
ู
ิ
ี
ั
ื
ศรทธาหญง(มอ์มนะฮ์) เคยงค่ด้วยเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดต้องเล่นบทบาทเดยวกัน นั่นคอ การ
ี
ก าชับในความด ห้ามปรามกันในความชั่ว และร่วมกันสถาปนาศาสนาของอัลลอฮข้นบนหน้า
ฺ
ึ
แผ่นดน การก าชับสังคมให้ด ารงอยู่ในความด และห้ามปรามกันในความชั่วนั้น ถอว่าเปนความ
ิ
็
ื
ี
รบผิดชอบต่อสังคมทส าคัญยิ่ง
ี่
ั
ี่
ี่
ู
ี
็
็
นอกจากน้อัลกุรอานสเราะฮ์ท 9 โองการท 71 ทกล่าวมาข้างต้นเปนหลักฐานแสดงให้เหน
ี่
ั
ี่
ื
ี
อย่างชัดเจนว่าอัลกุรอานได้รบรองอ านาจอธปไตยหรอทเรยกว่า อัลวิลายะฮ์ อัลมฏละเกาะฮ์ (
ุ
ิ
ี
ุ
ิ
ุ
ึ
ี
ี
่
) ของสตรอย่างเท่าเทยมกับบรษ ซงหมายความว่า สตรจะต้องใช้อ านาจอธปไตยของนาง
ุ
ร่วมกับบรษในการสรางสรรค์สังคมและสถาปนาความมั่นคงทางการเมองของประชาชาต ิ
ื
ุ
้
ี
ั
(Ummah) (Bin Haji Othman, 1993: 38) นอกจากน้อัลกุรอานได้รบรองการมส่วนร่วมในทาง
ี
ั
ื
ิ
ุ
ี
ี
ฺ
การเมองของสตรมสลมโดยพระองค์อัลลอฮได้ทรงบัญชาให้ท่านนบ รบการบัยอะฮ์ของพวก
ี่
นาง ดังทปรากฏในอัลกุรอานไว้ว่า
้
ิ
้
ี
ั
๋
ื่
้
้
ความว่า “โอนบเอย เมอบรรดาหญงผูศรทธาไดมาหาเจา โดยพวกนางให ้
้
่
ี
่
ฺ
การบัยอะฮแกเจ าวา พวกนางจะไมตั้งภาคใด ๆ ตออลลอฮ และจะไมขโมย และ
่
ั
์
่
่
ู
้
่
้
่
จะไมท าช และจะไมฆาลูก ๆ ของพวกนาง และจะไมน ามาซงการใสรายโดยการ
่
่
ึ่
่
ื
ั่
ี
้
็
่
้
ื่
เสกสรรลูกหลง พอใหเปนลูกของเขา และจะไมขัดขนค าสงของเจาในเรองดงาม
่
ั
่
้
ั
ฺ
ดังนั้นจงรบการบัยอะฮของพวกนาง และจงขอตออลลอฮใหทรงอภัยแกพวกนาง
่
์
้
ั
ิ
้
แทจรงอลลอฮเปนผูทรงอภัยผูทรงเมตตาเสมอ” (Al-Mumtahinah 60: 12)
้
ฺ
็
จากโองการดังกล่าวน้นักปราชญ์มสลมจ านวนมากใช้เปนหลักฐานแสดงให้เหนว่าอัลกุร
ิ
ี
ุ
็
็
ึ
ั
์
ิ
อานให้การรบรองอย่างสมบูรณถงสทธทางการเมองของสตร (Bin Haji Othman, 1993: 38)
ื
ิ
ี
ี่
็
ื
็
ี
ี่
การบัยอะฮ์ต่อผู้น าถอว่าเปนกระบวนการทส าคัญประการหนงทางการเมอง ในฐานะทสตรเปน
ื
ึ
่
่
่
ึ
ประชากรกว่าครงหนงของสังคม พวกนางจงควรมส่วนร่วมในการก าหนดชะตากรรมของสังคมท ี่
ี
ึ
ึ
ี
ี
ิ
พวกนางอาศัยอยู่ อัลกุรอานไม่ได้สอนให้สตรท าอบาดะฮ์ต่อพระเจ้าอย่างเดยว หากแต่ได้ก าชับให้
ี
ั
ุ
ื่
ิ
พวกนางยึดมั่นในคณธรรมและมีความรบผิดชอบ สตรจะต้องมความซอสัตย์ ยุตธรรมและเคารพ
ี
ุ
ื
ต่อกฏเกณฑ์ข้อบังคับของสังคมเหมอนกับบรษ พวกนางจะต้องมส่วนร่วมในกระบวนการทจะผลัด
ี
ี่
ุ