Page 60 - 022
P. 60
60
้
ความว่า “ และจงอยาปรารถนาในสงทอลลอฮไดทรงใหแกบางคนในหมูพวกเจา
ฺ
้
่
้
่
่
ิ่
ี่
ั
่
ี่
ั
ี
ิ่
ื
่
ี
้
้
เหนอกวาอกบางคน ส าหรบผูชายนั้นมสวนไดรบจากสงทพวกเขาไดขวนขวายไว ้
ั
้
้
ั
ิ
และส าหรบหญงนั้นก็มสวนไดรบจากสงทพวกนางไดขวนขวยไว และพวกเจาขอ
้
ิ่
ั
้
่
ี
ี่
้
้
ั
์
ิ
ฺ
ั
ฺ
ิ
ุ
ตออลลอฮเถด จากความกรณาของพระองค แทจรงอลลอฮทรงรอบรในทกสงทก
้
่
ู
ุ
ิ่
ุ
่
อยาง” (Al-Nisa’ 4: 32)
ั
้
ี
่
ี่
ิ
ี่
้
ฏอบารย์ได้อธบายโองการทว่า “ส าหรบผูชายนั้นมสวนไดรบจากสงทพวกเขาไดขวนขวาย
ี
ิ่
้
ั
ิ
้
้
่
ี
ิ่
ี
ี่
ึ
ไว และส าหรบหญงนั้นก็มสวนไดรบจากสงทพวกนางไดขวนขวยไว” เปนการช้ให้เหนถงสทธใน
ั
ิ
้
็
็
ั
ิ
้
่
ึ
ิ
ั
ั
ี
ึ
่
การท างานของสตร ซงเปนสอให้ได้มาซงทรพย์สนเงนทอง สตรควรได้รบห้นส่วน ผลตอบแทน
ี
ุ
็
ิ
ื่
ื
ี
ิ
หรอประโยชนในส่งทนางได้พยายามขวนขวยไว้ โดยไม่มความแตกต่างกับผู้ชายแต่ประการใด
์
ี่
ิ
ิ
ี
นอกจากน้ ฏอบารย์ไม่เหนด้วยกับนักอรรถาธบายอัลกุรอานบางท่านทอธบายโองการน้โดยเกี่ยว
ี
ี
ี่
็
ั
ึ
ั
ิ
ิ
โยงกับการได้รบทรพย์มรดก เพราะว่าค าว่า “อกตสาบ ( )” ในภาษาอาหรบหมายถง การ
ั
ได้รบผลตอบแทนบางอย่างจากการลงมอลงแรงท างานเอง ส่วนทรพย์มรดกนั้นไม่ใช่เปนการได้มา
ั
็
ื
ั
ี
ิ
ี่
ื่
โดยหยาดเหงอของตนเอง แต่เปนการได้มาอันเนองจากการเสยชวิตของญาตทใกล้ชด ดังนั้นการให้
ิ
ื่
ี
็
ิ่
ั
้
ี
ื
้
ี่
่
้
ความหมายโองการอัลกุรอานข้างต้นว่า “ส าหรบผูชายนั้นมสวนไดรบจากสงทพวกเขาไดสบทอด
ั
่
้
้
ั
มรดก และส าหรบหญงนั้นก็มสวนไดรบจากสงทพวกนางไดสบทอดมรดก” นั้นไม่น่าจะถกต้อง
ิ
ั
ี
ื
ู
ี่
ิ่
(Al-Tabari, 2001: 6/ 669)
ในอัลกุรอานสเราะฮ์อัลเกาะศ็อศ ( )โองการท 23-28 ได้น าเสนอเรองราวของสตร ี
ื่
ู
ี่
ึ
สองคนซงเปนลกสาวของนบท่านหนงในมัดยัน (Madyan) นางทั้งสองออกไปท างานหาปจจัยยัง
่
ึ
็
ู
่
ี
ั
ี
ึ
ี
ี
ี่
ชพโดยการเล้ยงฝูงแพะและได้เจอกับนบมูซา ทบ่อน ้าแห่งหนงในช่วงทนบมูซาหนออกมา
่
ี่
ี
ี
ี
่
ี
จากอยิปต์ จนกระทั่งนบมูซาได้แต่งงานกับหนงในสองหญงสาวคนนั้น อัลซะมัคชะรย์ (Al-
ี
ึ
ิ
ี
์
์
ิ
ุ
็
Zamakhshari, 1998: 4/490-498) ได้ยึดเหตการณน้เปนหลักฐานพิสจนให้เหนว่าสตรมสทธเสรภาพ
ี
ิ
ู
ี
็
ี
ทจะออกมาท างานหาปจจัยยังชพได้ และเรองราวดังกล่าวน้แสดงให้เหนว่าในสังคมมนษย์ตั้งแต่
ี
ี่
ื่
ี
็
ุ
ั
็
อดตเปนต้นมามสตรกล่มหนงทจะต้องออกไปท างานหาปจจัยยังชพให้แก่ตนเองและครอบครว
ี
่
ี
ี
ุ
ั
ั
ึ
ี่
ี
อัลซะมัคชะรย์ (Al-Zamakhshari, 1998: 4/491-492) ได้อธบายถงลักษณะครอบครวและ
ึ
ิ
ี
ั
ั
ี่
ี
ุ
็
บตรสาวทั้งสองคนของนบท่านน้ ีในมัดยันว่าเปนคนทยึดมั่นและเคร่งครดในศาสนา หากการ
ออกไปท างานของบตรสาวทั้งสองคนเปนการกระท าทไม่ถกต้องตามหลักศาสนา นบท่านน้จะต้อง
็
ี่
ี
ุ
ู
ี
ี
็
ุ
ี
ไม่อนญาตให้ทั้งสองออกไปเล้ยงฝูงแพะอย่างแน่นอน ในสมัยนั้นการเล้ยงสัตว์ถอว่าเปนอาชพท ี่
ี
ื
่
ึ
ั
็
ส าคัญในการหารายได้เข้าครอบครว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมมัดยันซงเปนสังคมกึ่งทะเลทราย
ี
ี
ี
ี
ื
ี
ี่
ดังนั้นการทสตรเข้าไปมส่วนในอาชพการเล้ยงสัตว์น้ถอว่าสตรเข้าไปมส่วนร่วมส าคัญในทาง
ี
ี
เศรษฐกิจของสังคม