Page 487 - 022
P. 487
487
ี
่
ความว่า “ ฉนเหนสตรคนหนงเขาพบทานนบ ้ ่ ้ ่ ู ฺ
และนางไดถามวา “โอทานรสลุลลอฮ
ี
็
้
ึ่
ั
ิ
ิ
ี
ื
่
้
ี
ี
ิ
ิ
สทธของสามเหนอภรรยาของเขามอะไรบาง?” ทานนบตอบวา “สทธของสามเหนอภรรยาของเขา
ื
ี
่
คอ นางจะไมออกจากบานเวนแตไดรบอนุญาตจากเขา แตถาหากนางละเมดพระองคอลลอฮ บรรดา
่
ฺ
้
์
่
ั
่
้
ิ
ื
้
ั
้
ี่
ิ
มะลาอกะฮททรงเมตตา และมะลาอกะฮททรงกรวโกรธจะสาปแชงนาง จนกวานางจะกลับตัวและ
่
้
่
ิ
ี่
์
ิ
์
่
้
็
่
่
้
ู
่
้
ฺ
ขออภัยโทษ” นางถามอกวา “โอทานรสลุลลอฮหากแมนวาเขาเปนผูอธรรมตอภรรยาของเขาก็ตาม
ี
่
่
่
่
้
็
่
้
กระนั้นหรอ ?” ทานนบตอบวา “ใช แมนวา เขาเปนผูอธรรมตอภรรยาของเขาก็ตาม” (Al-
ื
ี
Nawawi, n.d.: 18/95)
ิ
ิ
ี่
ิ
็
ี
็
ุ
ี
ในทัศนะของอัลชาฟอยะฮ์เหนว่าเปนสทธของสามทจะไม่อนญาตให้ภรรยาออกจากบ้าน
ี่
ั
็
ิ
แม้แต่การออกไปยังมัสยิดก็ตาม ส่วนทัศนะของอัลหะนาบละฮ์เหนว่า หะรอมส าหรบภรรยาทจะ
ั
ี
ิ
ิ
็
ุ
ิ
ิ
ี่
ิ
ิ
ออกนอกบ้านโดยไม่ได้รบอนญาตจากสาม เพราะสทธของสามนั้นเปนส่งทวาญบ การละท้งส่งท ี่
ี
ี่
ิ
วาญบโดยการทดแทนกับส่งทไม่วาญบนั้นไม่สามารถกระท าได้ (Zaydan, 1993: 7/290)
ิ
ิ
ิ
็
ื
ี
ุ
แม้ว่าการอนญาตให้สตรออกนอกบ้านเปนสทธ์ ิโดยตรงของผู้ปกครองหรอสามของพวก
ี
ิ
นาง แต่อย่างไรก็ตามท่านนบมหัมมัด ได้พยายามเข้าไปแทรกแซงสทธ์ ิน้โดยการก าชับให้
ี
ุ
ี
บรรดาผู้ปกครองและสามของพวกนางควรอนญาตให้พวกนางออกไปละหมาดทมัสยิดเมอพวก
ี่
ื่
ี
ุ
นางรองขอ (Bukhari: 899, 900, 5238; Muslim: 442, 4/136, 4/139) ซงแสดงให้เหนว่าท่ามกลาง
่
ึ
้
็
ี
ื
ิ
ค าสั่งทเข้มงวดให้สตรพ านักอยู่แต่ภายในบ้านเรอนเพื่อสนองตอบสทธของสามนั้น ท่านนบมหัม
ิ
ี
ี่
ี
ุ
มัด ยังเปดช่องและให้โอกาสแก่สตรทมศักยภาพและความพรอมสามารถออกส่สังคมภายนอก
ี่
ู
ี
ิ
้
ี
ได้ภายใต้การอนญาตของผู้ปกครองหรอสามของนาง ในเมอการออกไปละหมาดทมัสยิดของพวก
ี
ื่
ี่
ุ
ื
็
ิ
ี
นางเปนส่งทควรอนญาต ดังนั้นการทพวกนางออกจากบ้านเพื่อเข้าไปมส่วนร่วมในกิจกรรมอนๆ ท ี่
ุ
ี่
ื่
ี่
ิ
ุ
็
จ าเปนต่อสังคมยิ่งควรอนญาตมากกว่า เช่น การออกไปให้บรการสาธารณสขแก่สังคม ออกไป
ุ
ี
ิ
รณรงค์ส่งเสรมความดและห้ามปรามความชั่ว ออกไปให้การศกษาแก่สังคมและผู้ด้อยโอกาส
ึ
็
้
็
ิ
็
ื
ี
ช่วยเหลอเดกก าพราและหญงหม้าย เปนต้น เพราะกิจกรรมเหล่าน้ ีย่อมมความส าคัญและเปน
ประโยชน์ในเชงสังคมมากกว่าการไปละหมาดญะมาอะฮ์ทมัสยิดของพวกนางอย่างแน่นอน
ี่
ิ