Page 46 - 022
P. 46
46
ุ
ุ
ิ
ิ
ี
ุ
ี
ชัดเจนในทกมตของการด ารงชวิตบนพื้นฐานความเท่าเทยมกันกับบรษเพศ ทั้งในด้านสังคม ศาสนา
ุ
ี
ิ
ี่
ิ
ี
ิ
ิ
การเมอง เศรษฐกิจและการศกษา การทสตรมบทบาททปฏบัตจรงในทกมตของการด ารงชวิตนั้น
ี่
ึ
ี
ิ
ื
็
็
ี
ุ
แสดงให้เหนว่าทกเพศมความจ าเปนต่อกัน สังคมไม่สามารถด ารงอยู่ได้หากปราศจากความร่วมมอ
ื
์
ี
และการมส่วนร่วมของสตร อัฟซาลร เราะหมาน (Rahman, 1986: 27) ได้กล่าวย ้าถงความแตกต่าง
ึ
ี
ู
ื่
ระหว่างเพศชายและเพศหญงว่า อันเนองจากในตัวของบรษเพศและสตรเพศมความแตกต่างทาง
ี
ี
ุ
ุ
ิ
กายภาพและชวเคม ดังนั้นการก าหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางสังคมจงจ าเปนจะต้องค านงถงปจจัย
็
ึ
ี
ึ
ั
ี
ึ
ดังกล่าวน้อย่างจรงจัง
ี
ิ
ี
ุ
หะญ ไฟศอล บน หะญ อษมาน (Bin Haji Othman, 1993: 47-48 ) ได้กล่าวถงบทบาทสตร ี
ี
ึ
ิ
็
ี
์
ุ
ู
มสลมในอดตว่าในทางประวัตศาสตรได้พิสจนให้เหนอย่างชัดเจนว่าท่านนบ ได้รบรองการม ี
์
ิ
ั
ี
ิ
ื
ส่วนร่วมของสตรในกิจกรรมทางสังคม-การเมอง (Socio-Political) ของอมมะฮ์ นอกเหนอจากการ
ื
ุ
ี
ู
ู
็
ี
เล้ยงดลกอันเปนบทบาทตามธรรมของพวกนางแล้ว สตรยังได้แสดงบทบาทต่างๆ ทางสังคมอก
ี
ี
้
ึ
่
็
ี
ุ
ี
มากมาย ซงบทบาทเหล่าน้เปนส่วนหนงของการมส่วนร่วมของพวกนางในการสรางอมมะฮ์ ใน
่
ึ
ทัศนะของอสลามการแสดงบทบาททางสังคมของเพศหญงและเพศชายอยู่บนพื้นฐานของการเตม
ิ
ิ
ิ
์
็
ิ
ื
เต็มความสมบูรณของกันและกัน ไม่ใช่เปนการแข่งขันหรอการแย่งชงบทบาทของกันและกัน
ี
บทบาทบางอย่างในทางสังคมจ าเปนจะต้องอาศัยสตรและในขณะทบางอย่างจะต้องใช้พลังของ
ี่
็
ุ
็
บรษจงจะส าเรจบรรลตามเปาหมายได้ ซงเปนข้อเท็จจรงของสังคมมนษย์ทั้งในอดตและปจจบันท ี่
่
ึ
้
ึ
ุ
ี
ิ
็
ุ
ั
ุ
ุ
ิ
ื่
ี
ื
ั
ี
็
ยังจ าเปนต้องอาศัยพลังของสตรในการขับเคลอนสังคม แม้กระทั่งการงานในครวเรอน สาม-ภรยาก็
ิ
ี
ื
่
ึ
จะต้องช่วยเหลอซงกันและกัน ในหลายกรณภรยาไม่เพียงแต่มบทบาทในการเล้ยงดลกๆ ในบ้าน
ู
ู
ี
ี
เท่านั้น หากแต่พวกนางยังมส่วนร่วมในการด้นรน ไขว่คว้าหารายได้จนเจอครอบครวเพื่อให้
ั
ิ
ื
ุ
ี
์
ี่
ิ
ื่
ี่
ี
ิ
ี
ึ
ี่
ื
ั
ี
ครอบครวมเศรษฐกิจทดข้น และนคอข้อเท็จจรงของชวิตทปรากฏเรอยมาในประวัตศาสตรของ
่
ิ
ี่
ั
ุ
ี
็
มนษย์ แม้ว่าในทางชะรอะฮ์อสลามการหารายได้เข้าครอบครวเปนหน้าทของฝายสาม แต่ก็ไม่น่าจะ
ี
ั
ี่
ึ
็
ิ
ี
เปนประเด็นข้อโต้แย้งทจะห้ามไม่ให้ภรยามส่วนช่วยท าให้ภาวะทางเศรษฐกิจของครอบครวดีข้น
ุ
ิ
ิ
ี
ี
ุ
ี
ุ
นอกจากน้ ีบน หะญ อษมาน ได้กล่าวอกว่า ศาสนาอสลามไม่ได้ห้ามสตรและบรษใช้
สถานทสาธารณะร่วมกัน เช่น มัสยิด ห้องเรยน ห้องท างานในส านักงานหรอในโรงงาน ตลาดสด
ื
ี่
ี
็
ี
ี
หรอสถานขนส่งสาธารณะ เปนต้น ด้วยหลักการดังกล่าวน้สตรมสลมในยุคต้นของอสลามได้มส่วน
ี
ิ
ี
ิ
ุ
ื
ื
ร่วมในกิจกรรมทางสังคม-เศรษฐกิจ (Socio-Economic) วัฒนธรรม (Cultural) และการเมอง
(Political) ของอมมะฮ์ (Bin Haji Othman, 1993: 50)
ุ
ิ
ฮบบะฮ์ รออฟ อซซัต (‘Izzat, 1997: 210) ได้กล่าวถงความเสมอภาคในบทบาททางสังคม
ิ
ู
ึ
ิ
ิ
ุ
ี
ุ
ของบรษและสตรว่า แท้จรงแล้วศาสนาอสลามไม่เคยแบ่งแยกระหว่างเพศชายและเพศหญงในการ
ิ
ั
ี
ิ
รบผิดชอบในภารกิจทางสังคม มนษย์ทั้งสองเพศน้ต่างก็ต้องรบผิดชอบในการปกปองศาสนาในมต ิ
ั
ุ
้