Page 396 - 022
P. 396
396
ี
ึ
ุ
หะดษ ต าราอรรถาธบายอัลกุรอานและต ารานามานกรม ( ) ต่างๆ ได้กล่าวถง
ิ
ี
ี
ี
ี่
การบัยอะฮ์ของบรรดาเศาะหาบยาตต่อท่านนบ ในหลากหลายกรณทั้งเวลาและสถานทท ี่
็
ี
ี
ี
ี่
แตกต่างกัน ในบางกรณเศาะหาบยาตให้การบัยอะฮ์เปนหมู่คณะในขณะทในบางกรณกระท ากัน
็
ี
ี
ุ
เปนรายบคคล เศาะหาบยาตบางท่านให้การบัยอะฮ์โดยตรงต่อท่านนบ ในขณะทอกบางท่านให้
ี
ี่
ี
การบัยอะฮ์ผ่านตัวแทนของท่านนบ
เพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ดข้นผู้วิจัยจะน าเสนอเหตการณการบัยอะฮ์ของบรรดาเศาะหาบี
ี
ึ
ุ
์
ี่
ิ
ี
ิ
ยาตในสมัยของท่านนบ โดยแบ่งตามมตของเวลาทเกิดข้นดังน้ ี
ึ
1) การบัยอะฮที่เกิดข้นในยุคมักกะฮ ์
์
ึ
ี
ในหลักฐานทางประวัตศาสตรพบว่าการบัยอะฮ์ของเศาะหาบยาตต่อท่านนบ เกิดข้น
ึ
์
ี
ิ
ี
ี
คร้ ังแรกตั้งแต่ในยุคมักกะฮ์ในช่วงปแรกๆ ของการประกาศเปนศาสนทูตของท่านนบ ดังทม ี
ี่
็
ุ
่
ิ
์
ึ
ุ
ิ
ุ
ึ
บันทกในอบน สะอด์ซงรายงานจาก อบู สะละมะฮ์ อบน อับดลเราะหมานกล่าวว่า อมัรและท่าน
ุ
ฺ
ิ
ิ
ึ
่
ี่
หญงอาอชะฮ์คร้นกลับมาเยือนนครมักกะฮ์มักจะอาศัยอยู่ทบ้านของบตรสาวของษาบต ซงนางเปน
็
ุ
ิ
ั
สตรหนงในเจ็ดทให้การบัยอะฮ์ต่อท่านนบ ในยุคมักกะฮ์ (Ibn Sa‘d, 1990: 8/7)
่
ี
ึ
ี่
ี
ี
ุ
แม้ว่ารายละเอยดตัวตนเกี่ยวกับบตรสาวของษาบตท่านน้ไม่ปรากฏแน่ชัด แต่อย่างไรก็ตาม
ิ
ี
ี
ี
มีหลักฐานจัดเจนว่ามเศาะหาบยาตจ านวนหนงได้ให้การบัยอะฮ์ต่อท่านนบ ตั้งแต่ในยุคมักกะฮ์
่
ึ
ี
ี่
ี
ี
ี
ี
ก่อนการอพยพไปยังนครมะดนะฮ์เสยอก และบรรดาเศาะหาบยาตทให้การบัยอะฮ์ในยุคแรกเหล่าน้ ี
ี
ู
ิ
ั
ส่วนใหญ่เปนผู้อพยพไปยังอบสสเนยและบางท่านเข้ารบอสลามก่อนเข้าส่ยุคการเผยแผ่ทบ้านดารล
ี่
ิ
ี
ุ
็
อัรกอมเสยอก จากการส ารวจเฉพาะในต าราฏอบะกอตของอนบ สะอด์ พบรายนามเศาะหาบยาตท ี่
ี
ิ
ี
ี
ุ
ฺ
ี
ิ
้
ให้การบัยอะฮ์ต่อท่านนบ ตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของยุคมักกะฮ์พรอมกับได้อพยพไปยังอบสสเนย ดัง
ิ
ี
ี
ตัวอย่างต่อไปน้
1. นางรอมละฮ์ บนต์ อบ เอาฟ อัลสะฮ์มยะฮ์ (Ibn Sa‘d, 1990: 8/210)
ี
ี
ิ
2. นางบะรอกะฮ์ บนต์ ยะสาร (Ibn Sa‘d, 1990: 8/194)
ิ
ิ
ุ
3. นางฟกัยฮะฮ์ บนต์ ยะสาร (Ibn Sa‘d, 1990: 8/194)
ิ
ี
4. นางไลลา บนต์ อบ หัษมะฮ์ (Ibn Sa‘d, 1990: 8/210)
1
็
ิ
5. นางรอยเฏาะฮ์ บนต์ อัลหารษ (Ibn Sa‘d, 1990: 8/201)
ิ
6. นางอมม์ ญะมล บนต์ อัลมญัลลัล (Ibn Sa‘d, 1990: 8/213)
ิ
ุ
ุ
ี
ุ
ิ
7. นางสะฮ์ละฮ์ บนต์ สฮัยล์ (Ibn Sa‘d, 1990: 8/211)
1
ู
ู
ี
ในสายรายงานของอบ มซาเรยกชอนางว่า รออเฏาะฮ์ ( ) ส่วนในสายรายงานของอบ อัมร เรยกชอนางว่า
ื่
ี
ู
์
ื่
ิ
็
รอยเฏาะฮ์ ( ) (Ibn al-Athir, 1994: 7/106)