Page 310 - 022
P. 310
310
ิ
ั
ฺ
ิ
็
ิ
้
ั
ั้
้
ิ
ั
“บรรดามวลการสรรเสรญเปนสทธ์ของอลลอฮผูทรงก าหนดในบรรดาประชาชาตของฉนใหฉนนน
ู
่
ี
ไดอดทนอยูกับพวกเขา” หลังจากนั้นท่านรสล นั่งลงอยู่ตรงกลางพวกเราทั้งน้เพื่อให้อยู่เสมอกับ
้
็
ื
่
พวกเรา หลังจากนั้นท่านนบ ได้กล่าวพรอมกับใช้มอเปนท่าทางประกอบว่า “พวกทานจงท าหะ
้
ี
์
็
ึ
ึ
ู
ี
้
ี
ละเกาะฮแบบน้แหละ (หมายถงการศกษาหาความรโดยการนั่งล้อมเปนวง)” ท่านนบ สามารถ
ั
่
จะรจกใครสกคนจาก
ู
ี่
ี
็
็
เหนใบหน้าของทกคนในทนั้น แต่อบู สะอดเล่าว่า “ฉนไมเหนทานรสล ้ ู ั ั
่
ุ
่
้
ั
ี
ู
่
่
หมูพวกเขานอกจากฉนเทานั้น” และท่านรสล ได้กล่าวอกว่า “ขอแจงขาวดแกบรรดาชาวมุฮาญ ิ
ี
่
ี
ั้
่
ี่
ั
รนผูยากไรทงหลายวา ดวยรศมอนเต็มเปยมในวันกยามะฮ พวกทานจะเขาสรวงสวรรคกอนบรรดา
้
ิ
ั
่
่
์
์
้
ี
้
้
้
ผูรารวยดวยเวลาครงวัน และนั่นก็คอหารอยป” (Abu Dawud: 3666)
้
่
้
ึ่
้
ี
1
ื
นอกจากท่านนบ แล้วยังมเศาะหาบะฮ์บางท่านได้รบแต่งตั้งให้ท าหน้าทเปนครสอน
็
ี่
ู
ี
ั
ี
ุ
ให้แก่ชาวศฟฟะฮ์ ดังมรายงานจากอบาดะฮ์ อบน อัลศอมต กล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้สอนอัลกุรอานและ
ุ
ิ
ี
ิ
ุ
การเขยนให้แก่ผู้คนชาวศฟฟะฮ์” (Abu Dawud: 3416) และท่านนบ ได้แต่งตั้งอับดลลอฮ อบน ุ
ฺ
ุ
ี
2
ิ
ี
ุ
ี
ิ
สะอด อบน อัลอาศเปนครสอนหกมะฮ์ (Ibn Habib, n.d.: 460; Hamidullah, 1993: 2/768)
ุ
ิ
็
ู
ุ
ี
ุ
ี
ในสถาบันอัลศฟฟะฮ์ไม่เพียงแต่มเศาะหาบะฮ์จากนครมะดนะฮ์เท่านั้น หากแต่มมสลมจาก
ิ
ี
ุ
ิ
ี
ุ
ี
ิ
ึ
ี่
ต่างถ่นทั่วทกสารทศของคาบสมทรอาระเบยทเข้ามาพบกับท่านนบ เพื่อศกษาเกี่ยวกับศาสนา
็
ิ
ี่
ิ
ุ
อสลามมาพักอาศัยอยู่ในอัลศฟฟะฮ์เปนการชั่วคราวก่อนทจะแยกย้ายกลับไปยังถ่นฐานของตนเอง
ี
ี
ิ
ุ
ุ
คร้งหนงมรายงานว่ามมสลมจากเผ่าตะมมจ านวน 80 คนเข้ามาพักชั่วคราวอยู่ในอัลศฟฟะฮ์ และม ี
ั
ึ
่
ี
่
ึ
ิ
ุ
ี
ี
็
ุ
ึ
ิ
รายงานอกว่าช่วงหนงมมสลมมากถง 400 คนเข้ามาเปนศษย์ในสถาบันอัลศฟฟะฮ์ (Hamidullah,
ึ
ุ
ุ
์
่
ึ
ี
ี
ุ
1993: 2/769) นอกจากน้ในศอฮหบคอรย์ ได้รายงานว่า มชายหน่มกล่มหนงเข้ามาศกษาเกี่ยวกับ
ี
ี
็
็
ื่
ี
ศาสนาอสลามและมาพักอยู่กับท่านนบ เปนเวลา 20 วัน หลังจากนั้นเมอเหนว่าพวกเขามความร ้ ู
ิ
ี
เกี่ยวกับอสลามบ้างแล้ว ท่านนบ จงสั่งให้พวกเขาน าความรกลับไปสอนครอบครวของพวกเขา
้
ู
ี
ิ
ั
ึ
ื
ึ
ื
ุ
ึ
ี่
ต่อไป (Bukhari: 7246) ดังนั้นสถาบันอัลศฟฟะฮ์จงท าหน้าทเสมอนสถาบันการศกษาหรอ
มหาวิทยาลัยทบ่มเพาะผู้ร นักปราชญ์ นักเผยแผ่ศาสนาเพื่อท าหน้าทเผยแผ่ความรและศาสนา
ู
ู
้
ี่
้
ี่
อสลามส่ผู้คนให้กว้างขวางต่อไป
ิ
ู
ั
ุ
ี่
ี
สถาบันอัลศฟฟะฮ์ไม่ใช่สถานทสงวนส าหรบผู้ชายเท่านั้น หากแต่เศาะหาบยาตก็สามารถท ี่
จะมาแสวงหาความรและเปนศษย์สถาบันน้ได้เช่นกัน ซงในรายงานพบว่าในสถาบันอัลศฟฟะฮ์นั้น
ู
่
้
ึ
็
ี
ุ
ิ
ี
ิ
็
ุ
มมมหนงส าหรบสตรเปนการเฉพาะเรยกว่า “ศฟฟะตนนสาอ์ ( )” ดังทมรายงานจากอับ
ุ
ี
ี
ั
่
ึ
ุ
ี่
ี
1
็
ี
ี่
ี
ี
ี
ิ
ึ
่
อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษฎออฟ ยกเว้นในท่อนท้ายของหะดษทกล่าวถงการเข้าสรวงสวรรค์ซงเปนหะดษ
ี
ึ
็
ี
์
ศอฮห (Al-Albani, 1998a: 295)
2 อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห (Al-Albani, 1998b: 2/354)
ี
ิ
์
ี
็
ี