Page 143 - 020
P. 143
143
ุ
ี
ั
ุ
ทรพยากรจากแหล่งต่าง ๆ และเน้นการมส่วนร่วมของบคคลภายนอกให้เข้ามามส่วนช่วยสนับสนน
ี
ี
ี
กิจการต่าง ๆ ภายในโรงเรยนเพื่อให้บังเกิดผลดกับนักเรยน
ี
ี่
ทั้งน้อาจเปนเพราะโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามเปนโรงเรยนทมาจากการสนับสนน
ี
ี
ิ
ุ
ี
็
็
์
ี่
ช่วยเหลอของชมชน การอบรม แลกเปลยนความรกับผู้ปกครองเพื่อเปนการสัมพันธ กับชมชนและ
็
ุ
ู
ุ
้
ื
ุ
ี
เสรมแรงในเรองการอบรมคณธรรม จรยธรรมนักเรยนจงมความสําคัญ มาก สอดคล้องตามหลักการใน
ี
ิ
ื่
ิ
ึ
ื่
ี่
ึ
ิ
พระราชบัญญัตการศกษา แห่งชาต พ.ศ.2542 หมวด 1 มาตรา 9 (5) และ (6) ทได้กล่าวถงเรองการระดม
ิ
ึ
ี
ทรพยากรจากแหล่งต่าง ๆ และเน้นการมส่วนร่วมของบคคลภายนอกให้เข้ามามส่วนช่วยสนับสนน
ั
ุ
ี
ุ
กิจการต่าง ๆ ภายในโรงเรยนเพื่อให้บังเกิดผลดกับนักเรยน
ี
ี
ี
ุ
ิ
ี
ี
ิ
ี
ิ
2. ผลการเปรยบเทยบ บทบาทของผู้บรหารในการส่งเสรมคณธรรม จรยธรรมของผู้เรยนใน
ิ
ั
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดสํานักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน พบว่า
ี
ึ
ี
ึ
ี
ิ
ิ
ิ
ึ
ิ
2.1 สถานศกษาทผู้บรหารมวุฒต่างกัน ได้แก่ผู้บรหารสถานศกษาทมวุฒการศกษาระดับ
ี่
ึ
ี
ี่
ึ
ิ
ี
ี
ิ
ึ
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ปรญญาตร แล ะมวุฒการศกษาระดับปรญญาโทข้นไป มการส่งเสรมคณธรรม จรยธรรมนักเรยนใน
ุ
ึ
ึ
สถานศกษาโดยรวม และรายด้าน พบว่า ไม่แตกต่างกัน สอดคล้องกับการศกษา เพ็ญพร เหมบปผกะ
ุ
ิ
(2539 : บทคัดย่อ) ศกษาเรองสมรรถภาพในการบรหารงานโรงเรยนประถมศกษาทม วุฒต่างกัน พบว่า
ี
ึ
ิ
ึ
ี
ื่
ี่
ไม่แตกต่างกัน
ิ
ี
ทั้งน้อาจเปนเพราะ สภาพปจจบันผู้บรหารสถานศกษาทกคนได้รบการอบรมผู้บรหารใน
ั
ุ
ึ
ิ
ั
็
ุ
ู
ิ
ุ
ื
ิ
ู
ู
ี
ึ
หลักสตรเดยวกัน คอหลักสตรการอบรมผู้บรหารระดับสง และผู้บรหารสถานศกษาทกคนมตําแหน่ง
ี
ิ
ื
ึ
ุ
ี
ี
อย่างเดยวคอ ผู้อานวยการโรงเรยน ในทกสถานศกษาไม่ว่าขนาดเล็กหรอใหญ่ และผู้บรห าร
ื
ี่
ี
ี
สถานศกษาทมวุฒปรญญาตร หรอมวุฒปรญญาโทข้นไป ต้องมการพัฒนาตนเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะม ี
ื
ิ
ิ
ึ
ี
ี
ึ
ิ
ิ
ู
ิ
ิ
ื
ิ
ี่
ิ
ี
ี
วุฒปรญญาตรหรอ ปรญญาโท การพัฒนาตนเองจะมตลอดเวลา ทําให้เกิดความรทสามารถบรหาร
้
ิ
้
ี
ึ
ึ
สถานศกษาได้เท่าเทยมกัน และสถานศกษาต้องพรอมรบการประเมนการประกันคณภาพการศกษาจาก
ั
ุ
ึ
ผู้บังคับบัญชาโดยตรง คอ สํานักงานเขตพื้นทการศกษาทกๆป หรออย่างน้อยปละ 2 คร้ง เพื่อการ
ี
ี่
ั
ื
ึ
ื
ุ
ี
ิ
ึ
ี
ั
พิจารณาความดความชอบ และรบการประเมนจากสานักงานเขตพื้นทการศกษาทมมาตรฐานให้
ี่
ี่
ี
สถานศกษาได้ปฏบัต เพื่อให้เปนไปตามพระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พ .ศ. 2542 จงต้อง
ึ
ึ
ิ
ิ
ึ
ิ
็
ิ
ู
้
ี
ี
ื
ิ
กระตอรอรนอยู่เสมอ นอกจากนั้นผู้บรหารสถานศกษาในสังกัดเดยวกัน จะมความรในระบบบรหาร
ิ
ื
้
ึ
ี่
แบบเดยวกัน จงมความสามารถทไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะความรด้านการบรหาร สอดคล้องกับ
ี
ู
้
ี
ึ
ิ
สํานักงานคณะกรรมการประถมศกษาแห่งชาต (2541 : 4) ได้เสนอแนวคดและแนวปฏบัต ดังน้ คอ นัก
ิ
ิ
ื
ิ
ิ
ึ
ี
ึ
ู
็
้
ึ
ึ
ั
ิ
บรหารทด จําเปนต้องหาความรศกษาและฝกอบรมตนเองอยู่เสมอจะอ้างว่าไม่ได้รบการฝกอบรมมา
ี
ี่
ื
ี่
ี
ิ
ก่อนไม่ได้ ทั้งน้จะสังเกตได้จากผู้บรหารทมวุฒเหมอนกันแต่การปฏบัตงานจะมผลสาเรจไม่เหมอนกัน
ี
ิ
ี
็
ิ
ื
ิ