Page 49 - 013
P. 49
49
Alwani, Taha Jabir. (1995 : 150-152) ได้ให้ความคดเกี่ยวกับความขัดแย้ง
ิ
ิ
ิ
ิ
ุ
ื
ุ
็
ั
ื
ิ
สามารถแบ่งเปน 2 กล่มใหญ่ ๆ คอ แนวคดเดมและแนวคดสมัยใหม่หรอแนวคดสมัยปจจบัน
ี
่
ิ
ี่
นั้นเองเช่นเดยวกันกับ จรรยาเสยงเทยนชัย. (2544 : 16, อ้างองถงใน Neghlingale. 1974) ซงได้
ี
ึ
ึ
กล่าวถงแนวคดความขัดแย้งไว้ดังน้คอ
ี
ิ
ื
ึ
ุ
ี่
1. แนวความคดแบบเก่า เปนแนวความคดทสอนให้มนษย์มค่านยม ทหลกหน ี
ิ
ี
ิ
ิ
ี่
็
ี
ุ
ความขัดแย้งท าให้มนษย์กลัวความขัดแย้ง กลัวการไม่เหนด้วย และกลัวการเปนปรปกษ์ความ
็
ั
็
ี่
็
ื
ึ
ี
ิ
ี่
ขัดแย้งจงเปนส่งทต้องก าจัดออกไป หรอพยายามหลกเลยงให้ห่างไหล
ี
ี
ิ
ื่
ี่
ิ
2. แนวคดแบบใหม่ แนวความคดน้เชอว่าความขัดแย้งทจะต้องเกิด หนไม่พ้น
ี่
ุ
ึ
ั
็
ุ
ี
และบางคร้งก็เปนทต้องการ จงควรมการกระต้นและควบคมให้อยู่ในขอบเขตทจ ากัด
ี่
ึ
์
พรนพ พุกกะพันธ (2542 : 131) ได้กล่าวถง การศกษาพฤตกรรมเกี่ยวกับความ
ึ
ิ
ุ
่
ึ
็
ขัดแย้งในเชงจตวิทยา โดยได้จ าแนกแนวความคดเปน 3 กล่ม ซงแตกต่างกันดังน้ ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
1. แนวคดสมัยดั้งเดม (Traditional View)
ุ
ิ
ี
ิ
มมมองสมัยดังเดม สันนษฐานว่าความขัดแย้งเปนส่งไม่ด และมผลกระทบด้าน
็
ิ
ี
ี่
็
ุ
ื
ี
ลบต่อองค์กรอยู่เสมอ ความขัดแย้งจะกลายเปนค าทมความหมายเหมอนกับความรนแรง การท าลาย
ิ
ี
และการไรเหตผล เนองจากความขัดแย้งท าให้เสยหาย ผู้บรหารจะต้องมความรบผิดชอบทจะต้อง
ุ
ี
ี่
้
ั
ื่
ก าจัดความขัดแย้งขององค์กร
ุ
ิ
2. แนวคดด้านมนษย์สัมพันธ (Human Relations View)
์
แนวคดน้ยืนยันว่า ความขัดแย้งอาจจะเกิดข้นตามธรรมชาตและหลกเลยงไม่ได้
ี่
ิ
ิ
ี
ึ
ี
ุ
ุ
ั
ุ
็
ุ
์
ภายในทกองค์กร มมมองด้านมนษย์สัมพันธจะสนับสนนการยอมรบความขัดแย้งโดยให้ความเหน
ุ
ี่
ี
ว่าเหตผลของการมความขัดแย้งเนองจากไม่สามารถหลกเลยงได้ และความขัดแย้งอาจจะม ี
ื่
ี
์
์
ุ
ุ
ประโยชนต่อองค์กรได้บ้างในบางเวลา มมมองด้านมนษย์สัมพันธได้ครอบงามความคดของ
ิ
ี
นักวิชาการ เกี่ยวกับความขัดแย้งตั้งแต่ปลายป พ.ศ.2483 จนถงป พ.ศ. 2513
ี
ึ
ิ
3. แนวคดสมัยใหม่ (Contemporary View)
ี่
มมมองทเปนแนวความคดสมัยใหม่ สนับสนนความขัดแย้งบนรากฐานทว่า
ุ
ี่
ิ
ุ
็
องค์กร ทมความสามัคค ความสงบสข ความเงยบสงบและมความร่วมมอ หากไม่ยอมรบปญหาท ี่
ี
ั
ี
ี่
ั
ุ
ื
ี
ี
ื
เกิดข้นจากความขัดแย้ง การให้ความร่วมมอแก่องค์กร จะกลายเปนความเฉอยขา อยู่เฉย และไม่
ึ
ื่
็
ตอบสนองต่อความต้องการ เพื่อการเปลยนแปลง และการคดค้นใหม่ ๆ ดังนั้นแนวความคด
ิ
ิ
ี่
ี่
ุ
สมัยใหม่จงสนับสนนให้ผู้บรหาร รกษาระดับความขัดแย้งภายในองค์กร ให้อยู่ในระดับต าทสด
ิ
่
ั
ึ
ุ
ิ
ิ
เพียงพอต่อการสรางสรรค์องค์กรให้เจรญเตบโต