Page 118 - 013
P. 118
118
ิ
ิ
ุ
8. ความขัดแย้งระหว่างปรกตวิสัยกับบคลกภาพ (Norm-personality Conflict )
ิ
ุ
เปนความขัดแย้งในองค์กรรปนัย ความต้องการในบคลกภาพของบคคลกับบรรทัดฐาน ของกล่ม
็
ู
ุ
ุ
ี
ี่
ี่
ี
ุ
ู
็
ย่อมไม่สอดคล้องกัน เช่น ครใหญ่ทมความต้องการทจะเข้ามาเปนผู้น า อาจมความขัดแย้งกับกล่ม
ี่
ี
ิ
เดมทคาดว่าครคนใหม่ควรจะมาเปนผู้ตามทดก่อน เปนต้น
ู
ี่
็
็
ิ
9. ความขัดแย้งระหว่างปรกตวิสัยกับเปาหมาย (Norm-goal Conflict) เปนความ
็
้
ุ
็
ขัดแย้งระหว่างบรรทัดฐานของกล่มย่อยกับเปาหมายหลักขององค์การ เมอกล่มย่อยไม่เหนด้วย
ื่
้
ุ
้
ั
ื่
ื
็
หรอไม่ยอมรบเปาหมายขององค์การ ก็อาจแสดงการต่อต้าน อ้งาน หรอเฉอยงาน เปน เปาหมาย
้
ื
ู
็
ี่
ของโรงเรยนทต้องการให้ครประหยัดและออม ก็อาจขัดแย้งกับกล่มทชอบเล่นแชร เปนต้น
ู
ี่
ุ
์
ี
ุ
้
ิ
็
10. ความขัดแย้งระหว่างเปาหมายกับบคลกภาพ (Goal-personality Conflict) เปน
ุ
ุ
ุ
ี
้
ื
ความขัดแย้งระหว่างเปาหมายขององค์การกับบคลกภาพส่วนบคคล บคคลอาจมความชอบหรอม ี
ิ
้
ิ
ุ
ู
ิ
ี่
้
ั
เหตผลเฉพาะคนทไม่อยากปฏบัตตามเปาหมายขององค์การ เช่น ครใหญ่ขอรองให้ครตั้งแถวรบ
ู
ึ
่
ี่
ิ
ี่
็
็
็
ู
ผู้ใหญ่ทมาตรวจเยี่ยมอ าเภอ ซงครบางคนเหนว่าเปนส่งทไม่ควรกระท า เปนต้น
์
ึ
ิ
เสรมศักด์ ิ วิศาลาภรณ (2540 : 8) ได้กล่าวถงความขัดแย้งในหน่วยงานทาง
การศกษามักจะเกิดจากลักษณะส าคัญ 3 ประการ ดังน้ ี
ึ
ึ
1. ความขัดแย้งมักจะเกิดข้นเมอทรพยากรทางการศกษามไม่เพียงพอกับความ
ึ
ั
ี
ื่
ุ
ื
ุ
ั
ี่
ต้องการของบคคลหรอกล่มในสถานศกษาหรอองค์กรทเกี่ยวข้องกับการศกษา ทรพยากรในทน้ ี
ื
ี่
ึ
ึ
อาจเปนส่งทเหนได้และส่งทเหนไม่ได้ เช่น คน เงน วัสด ต าแหน่ง สถานภาพหรอเกียตยศ
ื
ิ
ี่
ิ
ี่
็
็
ิ
ุ
็
ิ
ี่
ื
ุ
2. ความขัดแย้งอาจเกิดข้นเมอบคคลหรอกล่ม แสวงหาทางทจะควบคมกิจกรรม
ุ
ื่
ุ
ึ
ุ
ื่
ื
งานหรออ านาจซงเปนคณลักษณะของคนอนหรอกล่มอน ความขัดแย้งน้เปนผลมาจากการก้าวก่าย
่
ื
ี
ื่
ึ
็
็
ุ
ื
ี่
ื่
ในงานหรออ านาจหน้าทของผู้อน
ื
3. ความขัดแย้งอันเกิดข้นเมอบคคลหรอกล่มไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับ
ึ
ื่
ุ
ุ
ี
ี่
้
ิ
ื
ี
ี่
ี
เปาหมายหรอวิธการในการท างาน ต่างคนต่างก็มเปาหมายและวิธการทแตกต่างกัน เปนส่งทไป
้
็
ด้วยกันไม่ได้
ี
ื่
เมอพิจารณาความขัดแย้งในโรงเรยน พอสรปได้ว่า ความขัดแย้งในโรงเรยน
ี
ุ
ึ
่
ื่
ุ
ิ
ิ
ั
ส่วนมากจะเนองมาจากเรองปรชญา แนวคด อ านาจ บคลกภาพ ความไม่เข้าใจซงกัน การขาดความ
ื่
ึ
่
ไว้วางใจซงกันและกัน การขาดการตดต่อสอสารทดกันและผลประโยชน์ การขาดประสทธภาพใน
ิ
ื่
ี
ิ
ิ
ี่
ุ
ี่
์
ิ
การบรหาร การขาดการประสารผลประโยชนของทกฝายทเกี่ยวข้อง การไม่ได้รบความเปนธรรม
็
ั
่
ื
็
การจัดสรรทรพยากรไม่ทั่วถง หรอการแข่งขันเพื่อให้ได้ทรพยากรทอยู่อย่างจ ากัดมาเปนของตน
ั
ั
ึ
ี่
ุ
ุ
ึ
หรอกล่ม ซงเปนผลให้คณภาพการศกษาด้อยลงไปด้วยเช่นกัน และผู้บรหารขาดความเปนผู้น า ไร ้
่
ิ
็
็
ื
ึ
ี
ั
ประสทธภาพในการบรหาร ผู้บรหารจะต้องให้ความส าคัญเพื่อจะแก้ปญหาได้อย่างมประสทธภาพ
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ