Page 225 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์

203

: ةيأ 2 ) ةثحا لا ةروس (
ความว่า : “การสรรเสริญทั้งหลายนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้า

แห่งสากลโลก”
1
(สูเราะฮ์อัลฟาติฮะฮ์ : อายะฮ์ 2)
ในอัสสุนนะฮ์ท่านนะบีมุฮัมมัด  ได้กล่าวว่า
ً
ً
ىى
)) همد ينمى لاعلا قُّ بر ا يف ضي نَّ ح ((
يى ى
ى
ى ى ى ى ى ى
) 7384 : 1997 مراخبلا هجرخأ (
ความว่า : “จนกว่าพระเจ้าแห่งสากลโลกจะวางพระบาทของพระองค์ใน
นั้น”
(บันทึกโดย al-Bukhāriy, 1997 : 7384)

อุละมาอ์สะลัฟได้ให้ความหมายของ “อัลอาละมีน” ( اع ؿا) คือ ญีนและมนุษย์ สิ่ง
ني
ถูกสร้างทั้งหมด ประชาชาติในแต่ละสมัย และเป็นพหูพจน์ของ “อาลัม” ( اع) หมายถึง ทุกสิ่งที่มีอยู่
2
์
ในจักวาลนอกเหนือจากอัลลอฮ (al-Ṭabariy, 1997 : 1/63) .
2) อุละมาอ์มุตะกัลลิมีนให้ความหมายของ “อาลัม” ( اع) สองความหมายคือ ทุก
สิ่งที่มีอยู่ในจักรวาลนอกเหนือจากอัลลอฮ์ตามความหมายของสะลัฟ ทั้งยังกล่าวอีกว่าหมายถึงวัตถุ

และคุณลักษณะต่างๆ ตามความหมายของเคาะลัฟ (al-Rāziy,1990: 1/186; al-Juwainiy,1987: 86).

3) นักปรัชญาให้ความหมายของ “อาลัม” ( اع) คือ กลุ่มของมวลสารธรรมชาติ

ของโลกทั้งหมด (‟Āmal binti „Abd al-Aziz, n.d. : 1/286).

4) อะฮฺลุลวะฮดะฮ์ให้ความหมายของ “อาลัม” ( اع) คือ ความจริงที่ปรากฏด้วย
คุณลักษณะต่างๆ ของสิ่งนั้น (‟Āmal binti „Abd al-Aziz, n.d. : 1/287).

ความหมายของ “อาลัม” ( اع) ที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่าอุละมาอ์มุตะกัลลิมีนส่วน

ใหญ่ให้ความหมายของอาลัมสอดคล้องกับความหมายของอุละมาอ์สะลัฟ กล่าวคือ ทุกสิ่งที่มีอยู่ใน
จักรวาลนอกเหนือจากอัลลอฮ์และยังมีบางส่วนให้ความหมายว่า วัตถุและคุณลักษณะต่างๆ ซึ่ง

แตกต่างกับนิยามของนักปรัชญาที่ไม่นับว่าสติป๎ญญาและจิตใจเป็นอาลัม ดังนั้น อาลัมในความหมาย

ของนักปรัชญานั้นไม่ใช่ทั้งหมดสิ่งที่มีอยู่ในจักรวาลนอกเหนือจากอัลลอฮ์คืออาลัม ไม่ต่างกับอะฮฺลุล
วะฮดะฮ์ที่เข้าใจว่าอาลัมคือ การมีอย่างชัดแจ้งของอัลลอฮ์ 

ส่วนนิยามของผู้แต่งนั้น ไม่ต่างกับนิยามของอุละมาอ์มุตะกัลลิมีนบางส่วนที่ให้ความ

ว่า อาลัมคือ วัตถุและคุณลักษณะต่างๆ ทั้งยังเข้าใจว่าทุกสิ่งใหม่จะไม่พ้นจากการเป็นสิ่งที่ถูกสร้าง

1 ดูความหมายเดียวกันในสูเราะฮ์อาลิอิมรอน อายะฮ์ 42
2
ดูเพิ่มเติมใน (al-Qurṭubiy, 1988 : 1/97 ; Ἰbn Kathīr, 1987 : 1/25 ; al-Shawkāniy, 1414 : 1/25).