Page 223 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 223

201







                                     อะบูฮาชิม จากมุตะซิละฮ์มีทัศนะว่า แท้จริงสิ่งแรกที่วาญืบกับมุกัลลัฟคือ การลังเล
                       (อัชชักก) ในอัลลอฮ์ (al-Eijiy, n.d.: 32; al-Juwainiy, 1407: 31) หมายถึง ก่อนการสร้างความมั่นใจ
                             ฺ
                                          บางอุละมาอ์อะชาอิเราะฮ์มีความเห็นว่าการรู้อัลลอฮ์ต้องประกอบด้วยประการต่างๆ
                       ดังนี้

                                     1)  แท้จริงสิ่งแรกที่วาญิบกับมุกัลลัฟ คือ การรู้จักอัลลอฮ  ์

                                     2)  แท้จริงสิ่งแรกที่วาญิบกับมุกัลลัฟ คือ การสังเกตที่นําไปสู่การรู้จักอัลลอฮ  ์
                                     3)  แท้จริงสิ่งแรกที่วาญิบกับมุกัลลัฟ คือ ความตั้งใจของการสังเกต

                                     ความแตกต่างมุมมองของอุละมาอ์อะชาอิเราะฮ์ข้างต้นเป็นการแตกต่างในประโยค
                       คําพูดเท่านั้น ซึ่งสามารถรวมประโยคได้ดังนี้ คือ สิ่งแรกที่วาญิบในสิ่งที่ปรารถนานั้น คือ การ

                       รู้จักอัลลอฮ์ ส่วนสิ่งแรกที่วาญิบในการใช้วิธีทางที่ใก้ล คือ การสังเกต และสิ่งแรกที่วาญิบในการใช้วิธี

                       ทางที่ไกล คือ ความตั้งใจของการสังเกต (al-Eijiy, n.d.: 32 ; al-Baijuriy, n.d.: 32)
                                                       1
                                     กอฎีย์ อับดุลญับบาร์  จากมุตะซิละฮ์กล่าวว่า การรู้จักอัลลอฮ์นั้นจะไม่เกิดขึ้นเว้น
                                                                                                     2
                       แต่ด้วยเหตุผลทางสติป๎ญญา (Qāḍī „Abd al-Jabbar, 1384 : 26) เช่นเดียวกับอัชชะฮฺร็อสตานีย์

                       เล่าว่าพวกมุตะซิละฮ์มีความเห็นพ้องกันว่าหลักของการรู้จักอัลลอฮ์และการชุโกรนิอฺมัตนั้นเป็นสิ่งที่
                       วาญิบมาก่อนการฟ๎ง (จากกิตาบ ฮะดีษและอิจมาอ) ความดีและความชั่วนั้นจําเป็นต้องเข้าใจด้วย
                                                                ฺ
                       สติป๎ญญาอย่างแน่นอน (al-Shahrastāniy, 1976 : 1/45)
                        กลุ่มสะลัฟมีความเข้าใจว่าการรู้จักอัลลอฮ์เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์อยู่แล้ว

                       ที่อัลลอฮ์ทรงสร้างบนสัญชาตญาณแห่งการยอมรับในความเป็นเจ้าของพระองค์ มนุษย์ไม่จําเป็นต้อง

                       ใช้ความพยายามด้วยสติป๎ญญาในการค้นหาอัลลอฮ์โดยวิธีการสังเกตหรือพิจารณาจากสิ่งถูกสร้าง
                       ต่างๆ ตามแนวทางของอะฮฺลิลกะลาม โดยแท้จริงกลุ่มสะลัฟไม่ได้ปฏิเสธการใช้สติป๎ญญาในการ

                       สังเกตหรือพิจารณาสิ่งถูกสร้างเพื่อให้เกิดความเข้าใจเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่สิ่งแรกที่วาญิบกับมุกัลลัฟต้อง
                       ปฏิบัติ นอกจากผู้ที่สัญชาตญาณได้ถูกปิดกั้นทําลายจนไม่สามารถที่จะเข้าใจและรู้จักอัลลอฮ์ได้เว้นแต่

                       ต้องใช้วิธีการสังเกตหรือการพิจารณาในการเข้าใจ

                        ส่วนกลุ่มอะฮฺลิลกะลามมีความเข้าใจว่าการรู้จักอัลลอฮ์ไม่ใช่เป็นความจําเป็นของ
                       สัญชาตญาณ แต่เป็นความพยายามของมนุษย์ที่ใช้สติป๎ญญาในการสังเกตหรือพิจารณาจากสิ่งถูก

                       สร้างที่ทําให้เกิดการยอมรับในที่สุดว่าต้องมีผู้ทรงสร้างและผู้ทรงสร้างที่แท้จริงนั้นคืออัลลอฮ์ ด้วยเหตุ

                       นี้จึงถือว่าสิ่งแรกที่วาญิบกับมุกัลลัฟทุกคนคือการสังเกตหรือการพิจารณาที่นําไปสู่ต่อการรู้จักอัลลอฮ์




                       1
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู อัลฮะสัน อับดุลญับบาร์ เบ็น อะฮมัด เบ็น อับดุลญับบาร์ เบ็น อะฮมัด อัลฮัมดานีย์ อัลอิสตะรอบาดีย์ เสียชีวิต
                          ในปี ฮ.ศ. 415 (al-Dhahabiy, 1985 : 17/244 ; al-Zirikliy, 2002 : 3/273).
                       2
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู อัลฟ๎ตหฺ มุฮัมมัด เบ็น อับดุลกะรีม เบ็น อะบี บักรฺ อะฮมัด อัชชะฮฺร็อสตานีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 548
                          (al-Zirikliy, 2002 : 6/215)
   218   219   220   221   222   223   224   225   226   227   228