Page 100 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 100

78







                       กับสิ่งที่ชนยุคต้นของอิสลามได้รวมตัวกันอยู่ และพวกเขาทราบดีว่าประชาชาตินี้จะไม่เกิดการรวมตัว
                       ขึ้นมาใหม่ได้หลังจากที่ได้เกิดการแตกแยก นอกจากด้วยสิ่งที่ชนยุคแรกได้รวมตัวกันอยู่บนนั้นเท่านั้น

                       คือ กิตาบของอัลลอฮ์และสุนนะฮ์ของท่านเราะสูลุลลอฮ์    ดังนั้นพวกเขาได้กระตือรือร้นในการ
                       ชักชวนมนุษย์เพื่อพิสูจน์กับสิ่งที่ชนยุคแรกได้รวมตัวกัน และละทิ้งกับทุกสิ่งที่เป็นสาเหตุทําให้เกิดการ

                       แตกแยกกัน  อัฏเฏาะบะรีย์ได้อธิบายว่า  :“อัลลอฮ์  ได้รวมหัวใจของบรรดาผู้ศรัทธาจากเอาส์และ

                       เคาะซเราะจญ์บนศาสนาของพระองค์ หลังจากที่ได้แตกแยกเป็นศัตรูกัน แล้วกลับกลายเป็นพี่น้องกัน
                       ในที่สุด หากท่านนะบีมุฮัมมัด   ได้ใช้จ่ายสิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดินทั้งหมด ก็ไม่สามารถทําให้หัวใจรวมได้

                       แต่ทว่าอัลลอฮ์  ได้รวมหัวใจของบรรดาผู้ศรัทธาด้วยทางนําที่ถูกต้อง” (al-Ṭabariy, 2000 : 14/45).
                                     การศรัทธาและการยอมรับศาสนาของอัลลอฮ์   เป็นสาเหตุทําให้บรรดาผู้ศรัทธา

                       เป็นหนึ่งเดียวและกลายเป็นพี่น้องกัน

                                     ในบรรดาอุละมาอ์ศตวรรษที่ 4 ที่อธิบายและเผยแพร่อะกีดะฮ์เตาฮีดตามแนวทาง
                       สะลัฟ อาทิ เช่น
                                                            1
                                     1)  อิมามอิบนุ คุซัยมะฮ  ได้แต่งหนังสืออัตเตาฮีด วะอิษบาตศิฟาตอัรร็อบ
                                                          ์
                       อัซซะวะญัล ( لجكزع برلا تا ص تابثإك ديحو لا با  ) ในบรรดาคํากล่าวของท่านที่ยืนยันว่า
                       เตาฮีดในสมัยของท่านยังสอดคล้องกับเตาฮีดในสมัยของท่านนะบีมุฮัมมัด  เศาะฮาบะฮ์ ตาบิอีน และ

                       ตาบิอฺตาบิอีนทุกประการ เช่น ท่านกล่าวว่า  : “แท้จริงเรายืนหยัดต่ออัลลอฮ์   ในสิ่งที่พระองค์ทรง

                       ยืนหยัดให้กับพระองค์เอง และขอยืนยันสิ่งเหล่านั้นด้วยลิ้น และเชื่อมั่นด้วยใจ โดยไม่เปรียบเหมือน
                       พระพัตร์ของพระเจ้ากับใบหน้าของคนหนึ่งคนใดจากมัคลูกฺ มหาบริสุทธิ์พระเจ้าจากการเปรียบ


                       เหมือนมัคลูกฺและจากคํากล่าวของผู้ปฏิเสธคุณลักษณะของพระองค์”  (Ἰbn  Khuzaimah,  1993  :
                       1/26).
                                     กลุ่มสะลัฟศรัทธาต่อคุณลักษณะของอัลลอฮ์   ตามที่พระองค์ทรงยืนหยัดไว้ให้กับ

                                                                 ฺ
                       พระองค์เอง และไม่เปรียบเหมือนพระองค์กับมัคลูก
                                                                     2
                                     2)  อิมามอะบู ญะอฺฟ๎ร อัฏเฏาะฮาวีย์  ได้แต่งหนังสืออัลอะกีดะฮ์อัฏเฏาะฮาวิยะฮ์
                       (ةيكاحطلا ةديقعلا) ในบรรดาคํากล่าวของท่านที่ยืนยันถึงเตาฮีดสะลัฟ เช่น ท่านกล่าวว่า :

                                     “และแท้จริงอัลกุรอาน คือ กะลามุลลอฮฺ เป็นคําตรัสที่เริ่มจากพระองค์โดยไม่มีวิธี

                                     การ และเป็นวะฮยุทรงประทานลงมาให้กับเราะสูลของพระองค์ และบรรดามุอ์มิน
                                     ยอมรับเป็นความจริงและเชื่อมั่นอย่างแน่นแฟ้นว่าแท้จริงอัลกุรอานคือกะลามุลลอฮ์





                       1
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู บักรฺ มุฮัมมัด เบ็น อิสฮาก เบ็น คุซัยมะฮฺ เบ็น อัลมุฆีเราะฮฺ เบ็น ศอลิหฺ เบ็น บักรฺ อัลนัยสาบูรีย์  เสียชีวิตในปี
                              (
                        ฮ.ศ. 311 al-Dhahabiy, 1985 : 14/365 ; al-Zirikliy, 2002 : 6/29).
                       2
                         ท่านมีชื่อเต็มว่า อะฮมัด เบ็น มุฮัมมัด  เบ็น สะละมะฮ์ อัลมิศรีย์ อะบู ญะอฺฟ๎ร อัฏเฏาะฮาวีย์ อัลฮะนะฟีย์  เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 321
                        (al-Dhahabiy, 1985 : 15/27 ; al-Zirikliy, 2002 : 1/206).
   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105