Page 20 - 067
P. 20
6
ปริมาณที่มากมาย และจ้าเป็นจะต้องบ้าบัดก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้้าธรรมชาติ เนื่องจากน้้าเสียที่ได้
ุ
ิ
จากการสกัดนี้จะมีการปนเปื้อนของน้้ามันและสารอนทรีย์ต่าง ๆ อดมไปด้วยองค์ประกอบของธาตุ
อาหารและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพชและสัตว์บางชนิดท้าให้แหล่งน้้านั้นเกิดการบลูมของแพลง
ื
ตอนพชเกิดสภาวะขาดออกซิเจนได้ จึงจ้าเป็นต้องมีการน้าไปบ้าบัดและใช้พชน้้าบางชนิดที่สามารถ
ื
ื
ช่วยลดสารอินทรีย์ของน้้าเสียจากการน้าไปใช้เป็นอาหารในการเจริญเติบโตต่อไป
2.1.2 สาหร่ายพุงชะโด
ุ
ื
สาหร่ายพงชะโดเป็นพชน้้าที่พบเห็นได้ทั่วไปตามแหล่งน้้าต่าง ๆ ทั้งในบริเวณน้้าจืดและ
ื
น้้ากร่อยโดย Pastare et al. (2015) พบว่าพชน้้าชนิดนี้สามารถใช้ในการบ้าบัดสิ่งแวดล้อมทางน้้าโดย
มีความสามารถในการดูดซึมสารอาหารได้ สาหร่ายพงชะโดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Ceratophyllum
ุ
demersum ชื่อเรียกทั่วไป Coontail หรือ Hornwort
ิ
ลักษณะส้าคัญ ล้าต้นเป็นสายกลมเรียวยาว ไม่มีราก ลอยตัวเป็นอสระอยู่ในน้้า มีใบ
ออกมารอบ ๆ ข้อเป็นชั้น 6-12 ใบ แตกกิ่งกานมาก ลอยตัวเป็นกลุ่มใหญ่ บริเวณผิวน้้า ใบมีลักษณะ
้
เป็นเส้น ขอบใบมีหนาม ปลายใบแตกเป็น 2 แฉก มีการผสมพนธุ์แบบอาศัยเพศ มีดอกแยกเพศเกิดที่
ั
ซอกโคนใบ ดอกตัวผู้เห็นได้ชัด มีเกสรตัวผู้สีขาวอยู่เป็นกระจุก ไม่มีกลีบดอกและกานดอก ดอกตัวเมีย
้
จะเห็นชัดเจนเมื่อติดผลแล้ว ผลเป็นรูปไข่ สีด้ามีหนามยื่นยาว 3 อัน
ก ข
ค ง
ภาพที่ 2.1 ลักษณะส่วนต่าง ๆ ที่ส้าคัญของสาหร่ายพุงชะโด
ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์สเตอริโอไมโครสโคป (Stereo Microscope)
ก ใบที่มีหนามของสาหร่ายพุงชะโด ข ใบที่แตกกิ่งรอบข้อ
ค ดอกแยกเพศบริเวณซอกโคนใบ ง ผลรูปไข่มีหนามยื่นสามแฉก